สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ว่าหนังสือพิมพ์ตวย เตร ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลเวียดนาม รายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขของเทศบาลเมืองโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของเวียดนาม กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา เฉพาะสถิติผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองแบบเร็ว ด้วยการใช้ชุดอุปกรณ์ "เอทีเค" ( Antigen Test Kit ) มีจำนวนประมาณ 150,000 คน แต่ไม่เคยได้รับการนับรวมในสถิติทั้งประเทศ
ทั้งนี้ ทางการเมืองโฮจิมินห์ยืนยันว่า ประชาชนกลุ่มดังกล่าวถือเป็น "ผู้ป่วยเช่นกัน" และทุกคนล้วนต้องเข้าสู่กระบวนการรักษาตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม สำนักงานสาธารณสุขเมืองโฮจิมินห์ยอมรับว่า ยังไม่เคยให้ผู้ติดเชื้อที่มีผลบวกจากการตรวจด้วยชุดเอทีเค เข้ารับการตรวจแบบอาร์ที-พีซีอาร์อีกครั้ง เนื่องจากทรัพยากรไม่เพียงพอ แต่เสนอว่า หน่วยงานส่วนกลางควรรวมสถิติของผู้ติดเชื้อจากการตรวจแบบเอทีเคเข้าไปด้วย "เพื่อให้วิเคราะห์ฉากทัศน์ของการระบาดได้ชัดเจนขึ้น"
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขในกรุงฮานอยยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ โดยจวบจนถึงปัจจุบัน สถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 ของเวียดนามใช้วิธีรวบรวมไม่ต่างจากประเทศส่วนใหญ่บนโลก นั่นคือ การบันทึกสถิติเฉพาะผู้ติดเชื้อที่มีผลตรวจอาร์ที-พีซีอาร์เป็นเครื่องยืนยัน
สำหรับสถิติผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 ในเวียดนาม อยู่ที่อย่างน้อย 766,051 คน เพิ่มขึ้น 9,362 คน เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 18,758 ราย เพิ่มขึ้น 174 ราย และหายป่วยสะสมอย่างน้อย 538,454 คน อนึ่ง หากนับรวมสถิติผลตรวจเอทีเคของเมืองโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดเข้าไปด้วย จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในเวียดนามจะเพิ่มขึ้นอีก 40%.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES