เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้มอบหมายให้มีการติดตามสถานการณ์อุทุกภัยในหลายจังหวัดที่เกิดขึ้น ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงภาคกลางตอนบนมากกว่า 14 จังหวัด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุม และพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” โดยล่าสุดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พปชร. ในแต่ละจังหวัด ได้เร่งลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หน่วยราชการ และมูลนิธิ ในการเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ทั้งในการอพยพประชาชนไปอยู่ที่ปลอดภัย และร่วมประสานจัดถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายให้กับชุมชนที่ไม่สามารถเดินทางออกจากที่พักอาศัยได้

“เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จากสถานการณ์น้ำท่วมขัง ได้เร่งให้ ส.ส. ในพื้นที่ เข้าประเมินสถานการณ์ และช่วยเหลือประชาชน ทั้งด้านการอพยพ การมอบถุงยังชีพ และรับฟังปัญหาของประชาชนที่จะนำมาสู่การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ เป็นพื้นที่ศูนย์รวมที่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจากแม่น้ำสี่สาย ที่ไหลบ่าจากภาคเหนือเข้าสู่พื้นที่ โดยนายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส. เขต 3 ได้ลงพื้นที่ติดตามดูสถานการณ์น้ำใน ต.ท่าไม้ อ.ชุมแสง พร้อมรับฟังปัญหาร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชุน บริเวณวัดหนองขอน ต.ท่าไม้ และ หมู่ที่ 1 ต.บางเคียน อ.ชุมแสง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมเยี่ยมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ บริเวณสะพานคลองคล้า โดยได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วมอย่างหนัก โดย นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.พปชร เขต 3 ได้เข้าสำรวจความเสียหายและหาแนวทางการเยียวยาพี่น้อง กว่า 2,500 หลังคาเรือน ที่อำเภอบำเหน็จณรงค์ พร้อมลงพื้นที่ให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพ ให้กับพี่น้อง เขตตำบลห้วยยายจิ๋ว อำเภอเทพสถิต เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ครั้งนี้

นอกจากนี้ในพื้นที่ อ.จัตุรัส ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมสูง และเกิดผลกระทบในวงกว้าง ทาง โดยนายเชิงชาย ชาลีรินทร์ ส.ส.เขต 2 พปชร. ได้เดินทางมอบถุงยังชีพ ที่ ต.จานทุ่ง และท่าศาลา เพื่อเตรียมจัดส่งเข้าไปสู่ชุมชนต่างๆ อย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตามได้เตียมจัดทำแผนการขนส่งถุงยังชีพ เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนได้อย่างทั่วถึง เพราะขณะนี้ระดับความสูงของน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ชุมชนไม่สามารถออกมาจากพื้นที่ และเดินทางได้สะดวก