เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างปกติ นายกฯ หันไปพูดคุยและทักทาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีตลอดการประชุม

โดยช่วงหนึ่งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง รายงานที่ประชุมถึงโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ โดยภาษีจะปรับเพิ่มขึ้นซองละ 6-8 บาท ไม่เกินซองละ 72 บาท มีผลบังคับใช้ 1 ต.ค. ส่งผลให้บุหรี่แพงขึ้นและการปรับขึ้นราคา เพื่อให้ราคาใกล้เคียงกับบุหรี่ต่างประเทศ เพราะทุกวันนี้เกษตรกรที่ปลูกยาสูบมีปัญหา เพราะราคาบุหรี่นอกประเทศมาตีตลาดราคาบุหรี่ในไทย ทำให้มีปัญหาในเรื่องของรายได้จึงมีความจำเป็น ต้องขยับราคาขึ้น นอกจากนี้ต้องพิจารณาเรื่องสุขภาพของประชาชนเป็นหลักด้วย

ทั้งนี้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบ ซึ่งวาระดังกล่าวใช้เวลาหารือค่อนข้างนาน และเป็นเอกสารมุมแดงไม่ให้มีการแถลงข่าว นอกจากนี้มีรัฐมนตรีบางคน เช่น นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ตั้งข้อสังเกตเป็นห่วงว่าถ้าบุหรี่แพงขึ้นอาจจะทำให้เกิดบุหรี่ปลอมระบาด โดยในพื้นที่ภาคใต้มีการระบาดเยอะ

ทั้งนี้นายกฯ กำชับนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เรื่องการทุจริตในการลงทะเบียนจองคิวรับวัคซีนโควิด-19 ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ซึ่งได้มีการออกหมายจับทั้งหมด 7 รายแล้วให้ไปดูระบบให้ดีเข้มงวดในเรื่องการจัดคิว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหนึ่งนายกฯ ได้หยิบคำถามสื่อมวลชนขึ้นมาอ่านโดยเป็นคำถามที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ออกมาย้ำชัดว่าไม่มีปัญหากันแต่ดูเหมือนว่ากลุ่มการเมืองพยายามทำให้เกิดภาพการวัดพลังภายใน ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า “สื่อชอบเอาข่าวไปเล่นว่าวัดพลัง หรือผมทะเลาะกับ พล.อ.ประวิตร มันไม่มีอะไรเลย ผมไม่ได้อยากให้ ส.ส.แห่มารับ ไม่ได้ต้องการให้เป็นอย่างนั้น เพราะไม่อยากให้สื่อมวลชนมาจับจ้องเรื่องการวัดพลังกันอีก”

ทั้งนี้ ช่วงท้ายวาระจรที่ประชุม ครม.มีมติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี แทน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เฉพาะกรมพัฒนาที่ดิน, กรมฝนหลวงและการบินเกษตร, สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต่เดิมทั้ง 4 กรมนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ แต่ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยกระทรวงเกษตรฯ อยู่ในอำนาจกำกับดูแลของนายจุรินทร์ รองนายกฯ.