เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าน้ำวัดไก่เตี้ย ตำบลกระแชง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้ขับเรือพร้อมคณะนำถุงรอดชีพแจกให้กับบ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำ รถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้ พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนยกย้ายของขึ้นที่สูงเตรียมตัวรับมวลน้ำเพิ่มที่เขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสัก ปล่อยมวลน้ำไหลลงเจ้าพระยารวมกว่า 3,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

เนื่องจากโครงการชลประทานจังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งจากกรมชลประทานว่า ประเมินปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน และลุ่มน้ำป่าสัก ซึ่งคาดว่ามีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในอัตรา 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อีกทั้งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำไหลลงเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้นเพื่อรักษาเสถียรภาพความปลอดภัยและความมั่นคงของเขื่อน จึงจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในอัตรา 900-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนเข้าพื้นที่จังหวัดปทุมธานี อยู่ในอัตราประมาณ 3,000-3,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที่ ซึ่งจะทำให้กระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่นอกคันกั้น

อำเภอสามโคก และอำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี โดยทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้นำเรือเหล็กจำนวน 2 ลำ เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ที่อาศัยอยู่ตลอด 2 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และได้นำถุงรอดชีพเพื่อบรรเทาภัยจากน้ำเอ่อล้น และยาสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกันโควิด-19 จากวัดวัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร มอบให้ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม รวมถึงป้องกันโควิด-19 ไปด้วย

รวมถึงให้ระมัดระวังปลั๊กไฟฟ้า หากประชาชนต้องการย้ายปลั๊กไฟสามารถประสานวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี จะมีทีมลงพื้นที่ช่วยเหลือ รวมถึงการซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุดจากน้ำท่วม นอกจากนี้ นายเสวก ประเสริฐสุข รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ยังได้ลงเรือเล็กเพื่อนำถุงรอดชีพไปมอบให้ประชาชนตามบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้ผมเป็นห่วงผู้ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทางเขื่อนเจ้าพระยาได้ปล่อยน้ำมาถึง 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตามที่ได้รับแจ้งมา ทำให้ระดับน้ำขึ้นมาสูงจากเมื่อวานมาก 50-60 เซนติเมตร วันนี้จึงได้ออกมาประชาสัมพันธ์และดูแลพี่น้องประชาชนนำถุงรอดชีพบรรเทาภัยมามอบให้ และมีทีมช่วยเหลือยกสิ่งของขึ้นที่สูง ส่วนน้ำจะเข้าท่วมพื้นที่ในคันกั้นน้ำหรือไม่นั้น ผมยังไม่หนักใจ เพราะว่าเท่าที่ผมได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณโรงเรียนวัดป่างิ้ว ระดับน้ำยังต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 2 เมตร จุดไหนที่เป็นจุดบอด เราได้เตรียมแท่งแบริเออร์เตรียมกระสอบทรายเพื่อที่จะนำไปเสริม และได้ประสานโรงเรียนเทคนิคปทุมธานี เตรียมนักเรียนช่างจิตอาสาออกมาช่วยประชาชน เช่น การย้ายปลั๊กไฟเป็นต้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม

และตนได้เตรียมเรือท้องแบบจำนวน 2 ลำ ไว้บริการและให้การช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งการขนย้ายของ การเดินทาง นอกเหนือจากการนำอาหารและยาไปมอบให้ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม หลายบ้านรถยนต์เข้าไปไม่ได้ ก็ต้องเอาเรือขนถุงรอดชีพไปให้เขา เบื้องต้นจุดที่ได้สำรวจพบว่าที่วัดถั่วทอง เป็นพื้นที่ลาดต่ำและพื้นที่อำเภอสามโคกฝั่งตะวันตก ก็มีหลายจุดที่ต้องทำแนวป้องกัน ตอนนี้สั่งให้ ส.จ.ประสานให้ตรวจสอบในพื้นที่ หากพบว่าจุดไหนมีระดับน้ำขึ้นสูงจะข้ามสันเขื่อนจำเป็นต้องเสริมแนวคันกั้นน้ำ เราพร้อมส่งสนับสนุนทั้งเครื่องมือกระสอบทรายและแบริเออร์ ซึ่งเราเตรียมแผนช่วยเหลือไว้เต็มที่แล้ว.