เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 4 เม.ย. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร  เพื่อ พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152  ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงปัญหาพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ว่า รัฐบาลให้สัญญาต่อที่ประชุมสภาฯ ต่อการแก้ปัญหาทั้งต่อการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยย้ำถึงหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง  แต่การลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 28 ก.พ.67 ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าขอให้ยกโทษให้กันและกันในเหตุที่มีความรุนแรงโดยไม่รู้ว่ายกโทษให้ใคร  ซึ่งเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ ทราบว่าเร็วๆ นี้จะมีผู้ที่เสียหายยื่นฟ้องคดีอาญาด้วย

นายรอมฏอน กล่าวว่า การใช้นิติสงครามยังคงมีในพื้นที่ และยื่นฟ้อง ดำเนินคดีกับนักกิจกรรมที่แต่งชุดมาลายู  โดย กอ.รมน. ภาค4 ส่วนหน้า ที่มีนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อปิดปาก บ่อนทำลายกระบวนการสันติภาพในพื้นที่นอกจากนี้ยังมีความไม่ชัดเจน และความไม่คงเส้นคงวาของรัฐบาล  ที่ตนมองว่าปัญหาในชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่อง การเมือง อัตลักษณ์ประวัติศาสตร์ ที่มีความขัดแย้งในคนละความหมายกับการใช้การพัฒนาเศรษฐกิจ ปากท้องในพื้นที่ ตนคาดหวังว่าไปไกลกว่าการมีเงินในกระเป๋า เพราะเรื่องใหญ่กว่านั้น หากคิดแค่นี้จะเสียศูนย์ได้ง่าย นอกจากนายกรัฐมนตรี จงใจไม่แทรกแซงปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อให้กองทัพ และ กอ.รมน. ดำเนินการ คล้ายมีดีลบางอย่างร่วมกัน  ทั้งนี้ตนมองว่านายกฯ ไม่ไร้เดียงสา เพราะเคยมีแนวทางการแก้ปัญหาที่เคยเป็นหายนะ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายทักษิณ  ชินวัตร

“ที่ผ่านมามีการแก้ปัญหาด้วยสันติภาพ ซึ่งเป็นแนวทางที่เป็นมรดกตกทอดมา แต่การแก้ปัญหาด้วยเหตุนี้ รัฐบาลเศรษฐาอาจจะรู้สึกว่าทำแล้วจะเจอรัฐประหาร หรือเหยียบเท้าใคร จึงคำนวณอย่างมั่นใจแบบนี้ ทั้งที่การสร้างกระบวนการสันติภาพ เราต้องการผู้นำพลเรือนที่แข็งแกร่ง แต่ขณะนี้พบว่าได้เซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพ ปล่อยชะตากรรมในคนชายยแดนใต้ ให้ถูกจำกัดเสรีภาพ โดยอ้างภัยความมั่นคง ให้กองทัพแข็งแกร่ง ความบกพร่องนี้ เกรงว่าจะทำให้ความรุนแรงหวนกลับมา ขอเตือนนายกฯ และผู้มีอำนาจฝ่ายบริหาร หากไม่ยืนยันอย่างแข็งแกร่ง สิ่งที่เจอในปัญหาภาคใต้ อาจจะรุนแรงเหมือนที่หลงประเมินผิดก่อนปี2547 หากไม่หนักแน่นพอแต่หากรัฐบาลมุ่งจำกัดบทบาทของกองทัพจริงจัง เชื่อว่าฝ่ายค้านพร้อมจะเดินร่วมกันอย่างแท้จริง แต่ตอนนี้เห็นความบกพร่อง แต่ตอนนี้มีปัญหา ดังนั้นผมขอให้รัฐบาลส่งสัญญาณต่อประเด็นทบทวนการฟ้องคดีตากใบ ยกเลิกกฎอัยการศึก” นายรอมฎอน กล่าว.