สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ว่า นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แถลงเนื่องในวาระครบรอบ 75 ปี การสถาปนาสหภาพทางทหารขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2492 โดยมีใจความตอนหนึ่ง เกี่ยวกับความเป็นไปได้สูง ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ จะได้รับการเลือกตั้งให้กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง ว่าอเมริกาและยุโรปต้องเป็นส่วนหนึ่งของนาโต “ร่วมกัน”
สโตลเทนเบิร์กเน้นย้ำ ว่าความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับสมาชิกยุโรปของนาโต มีแต่จะยิ่งทำให้สมาชิกซึ่งปัจจุบันมี 32 ประเทศ ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น ต่างฝ่ายต่างแยกออกจากกันไม่ได้

อนึ่ง ทรัมป์วิจารณ์นาโตอย่างหนัก ตลอดระยะเวลา 4 ปีของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ว่าทำให้รัฐบาลวอชิงตันต้องแบกรับค่าใช้จ่ายแทบทั้งหมดเพียงฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตาม สโตลเทนเบิร์กเปิดเผยเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ว่าสมาชิกนาโตอย่างน้อย 20 ประเทศ กำลังจะมีเป้าหมายการใช้จ่ายงบประมาณกลาโหม เป็นสัดส่วนเกินกว่า 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ภายในสิ้นปีนี้
???? #NATO foreign ministers meet on Thursday to celebrate the 75th anniversary of their #alliance, having agreed to start planning for a greater role in coordinating military aid to #Ukraine.
— FRANCE 24 English (@France24_en) April 4, 2024
More from our correspondent in Brussels, @DaveKeating ???? pic.twitter.com/G1weflJr2F
ขณะเดียวกัน สโตลเทนเบิร์กเน้นย้ำ วาระสำคัญที่สุดของนาโต ณ เวลานี้ คือการเดินหน้ามอบความสนับสนุนด้านอาวุธให้แก่ยูเครน ที่หลายประเทศเผชิญกับอุปสรรค โดยเฉพาะสหรัฐ ซึ่งสภาคองเกรสที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ยังคงไม่อนุมัติวงเงินช่วยเหลือรอบใหม่ 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.2 ล้านล้านบาท)
ทั้งนี้ เลขาธิการนาโตเสนอการจัดตั้งกองทุนมูลค่า 100,000 ล้านยูโร (ราว 3.98 ล้านล้านบาท) ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี เพื่อมอบความสนับสนุนให้แก่ยูเครนโดยเฉพาะ และการผลักดันให้สมาชิกนาโต “มีบทบาททางตรงมากขึ้น” กับการส่งมอบอาวุธให้แก่ยูเครน แต่ทั้งหมดยังเป็นเพียงแนวคิด และต้องมีการหารืออีกหลายครั้ง.
เครดิตภาพ : AFP