เมื่อวันที่ 6 เม.ย. เวลา 08.00 น” พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงานวันครบรอบการก่อตั้งพรรค 78 ปี ภายในที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ถนนเศรษฐศิริ โดยมีการประกอบพิธีทางศาสนา 3 ศาสนา ได้แก่ อิสลาม พราหมณ์ พุทธ ขณะที่มีกรรมการบริหารพรรค ส.ส. อดีตสส. สาขาพรรค และสมาชิกพรรค เข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง อาทิ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรค นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง อีกทั้งมีบรรดาอดีตสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมแสดงความยินดี อาทิ นายอันวาร์ สาและ อดีตสส.ปัตตานี และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า

นอกจากนี้มีตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ นำแจกันดอกไม้มาร่วมอวยพรและแสดงความยินดี ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทยที่นำโดยนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรค นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง และรองหัวหน้าพรรค และน.ส.แนน บุณยธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรค  พรรครวมไทยสร้างชาติที่นำโดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคฯ พรรคพลังประชารัฐที่นำโดยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคฯ และยังมีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อีกทั้งนายคำพัน อั่นลาวัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย มาร่วมอวยพรด้วย

ทั้งนี้ ในระหว่างการประกอบพิธีอิสลาม นายเฉลิมชัย ได้กล่าวกับชาวมุสลิมที่เข้าร่วมพิธีว่า วันนี้เป็นวันครบรอบ 78 ปี ย่างเข้าสู่ปีที่ 79 ตนมีความตั้งใจว่าจะสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้เกิดขึ้นในประเทศ โดยมีหลักการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่สำคัญที่สุดคือ ยึดมั่นความซื่อสัตย์ สุจริต และนี่คือจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.2489  และจะยึดมั่นหลักการอย่างนี้ตราบใดที่ยังมีพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในประเทศไทย และพรรคประชาธิปัตย์มีความผูกพันกับ ศาสนาอิสลามเป็นอย่างมาก และเราให้คุณค่า ให้ความสำคัญกับชาวมุสลิมตลอดมา

นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า สิ่งหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ แสดงให้เห็นว่าความยึดมั่น และมีความผูกพัน ให้ความสำคัญกับพี่น้องมุสลิมคือการที่เราให้ตัวแทนกับพี่น้องมุสลิมมีบทบาทเป็นผู้บริหารประเทศ ซึ่งตนคงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะการกระทำทุกอย่างจะเป็นสิ่งที่บอกเจตนาของเราทั้งหมดว่าวันนี้เรามีความผูกพัน และให้ความสำคัญกับพี่น้องมุสลิมทั้งประเทศ โดยได้มอบหมายให้พ.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรคฯ ตามภารกิจ และนายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรค ตามภารกิจ และชาวมุสลิมทั้งหมดช่วยดูแลประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้และชาวมุสลิมทั่วประเทศ โดยหลังจากนี้เราจะมีการประสานงานจัดกิจกรรม ร่วมกันให้เปรียบเสมือนว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นส่วนหนึ่ง และหลังจากนี้ ตนเชื่อมั่นว่า เราจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะทำงานไปด้วยกัน ช่วยสังคมและประเทศชาติในการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงสิ่งที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขและเผชิญในวันข้างหน้า

“ผมขอให้ความเชื่อมั่นว่าประชาธิปัตย์ ณ วันนี้ กับประชาธิปัตย์เมื่อ 78 ปีที่แล้ว คือประชาธิปัตย์เดียวกัน และในวันข้างหน้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หลักการและอุดมการณ์ของความเป็นประชาธิปัตย์ ที่ต้องการเห็น ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เคารพระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและยึดมั่นในหลักการสุจริต เป็นที่ตั้ง ยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ตลอดไป ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้บริหารในอนาคตก็ตาม ผมขอให้คำมั่นสัญญากับทุกคน ผมคิดว่าโอกาสหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะได้มีโอกาส ทำกิจกรรมในหลายสิ่งหลายอย่างให้กับพี่น้องมุสลิมทั่วประเทศ”นายเฉลิมชัย กล่าว

ต่อมา เวลา 08.50 น. นายเฉลิมชัยเป็นประธานในพิธีพราหมณ์บวงสรวงพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลานพระแม่บีบมวยผม จากนั้น เป็นการประกอบพิธีสงฆ์ที่ห้องประชุม ชั้น 3 อาคาร 100 ปีม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ในเวลา 10.00 น. โดยมีสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) “สมเด็จธงชัย” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานในพิธีสงฆ์

จากนั้น นายเฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงการครบรอบการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ครบ 78 ปี ว่า  พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่พูดได้เต็มว่าเราเป็นสถาบันทางการเมืองที่ต้องอยู่คู่กับประเทศไทยไปอีกนาน และต้องมีการปรับตัวให้ทันสถานการณ์โลก วันนี้สิ่งที่เห็นชัดเจนที่สุดคือความสดใส และยังมีการตั้งศูนย์เทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อการสื่อสาร เพื่อเปิดโลกให้พรรคประชาธิปัตย์ในแง่การสื่อสารกับประชาชนในการนำเสนอสิ่งต่างๆสู่สังคม ถือเป็นสิ่งสำคัญที่โลกในตอนนี้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ดังนั้นเราต้องขับเคลื่อนตามโลก

เมื่อถามว่ากรณีที่นายเฉลิมชัยเคยระบุว่าจะมีเลือดไหลกลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์ และในงานทำบุญของพรรคฯ มีศิษย์เก่ามาร่วมยินดีด้วย จะเริ่มมีความชัดเจนหรือไม่ว่ามีใครเข้ามาบ้าง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรามีการพูดคุยกันตลอด แต่รอการประชุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในปลายเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งจะมีการแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ เพื่อเปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่ คนที่ไม่เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับสร้างความมั่นใจให้คนที่ยังอยู่กับพรรคฯ วันนี้พรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ทั้งนี้เป็นการประชุมตามกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง และไม่มีการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคฯ

เมื่อถามว่าจะมีการแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ เกี่ยวกับสัดส่วนเสียงลงมติในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคฯซึ่งปัจจุบัน 70:30 หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า หลักใหญ่เรื่องนี้ เราจะแก้ไขสิ่งที่กำกวมและทำให้ต้องตีความให้มีความชัดเจน รวมถึงแก้ไขปัญหาที่มีการท้วงติงว่าไม่เหมาะสมต่างๆ ให้มีความเหมาะสมด้วย

จากน้้น เมื่อเวลา 12.10 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ น.ส.สุภานัน นิราษิท ภรรยา พร้อมด้วย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย และน.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทย ในฐานะนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมามอบกระเช้าดอกไม้ เพื่อร่วมอวยพรและแสดงความยินดีกับพรรคประชาธิปัตย์ด้วยในวันนี้ (6 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันครบรอบการก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย ทั้งนี้มีนายเฉลิมชัยให้การต้อนรับ ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนชื่นมื่น โดยเมื่อนายอนุทินมาถึง ได้สวมกอดกับนายเฉลิมชัย ขณะที่นายเฉลิมชัย กล่าวหยอกล้อกับนายอนุทินว่า รองนายกรัฐมนตรีมา ต้องตั้งแถวรับไหม ทั้งหมดแถวตรง

นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ความจริง ตนต้องเดินทางไปที่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งระหว่างนั้น นายอนุทินได้หยิบพระที่เหน็บที่หน้าอกของนายเฉลิมชัยมาดู ก่อนที่นายเฉลิมชัยจะบอกว่ารับพระมาจากเจ้าคุณธงชัย และในปี 2568 ตนจะเดินทางไปที่พรรคภูมิใจไทยเอง ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณนายอนุทินที่ได้เดินทางมาวันนี้ เนื่องจาก ทั้ง 2 พรรคมีวันเกิดวันเดียวกัน สำหรับมิตรภาพจะอยู่ตลอดชีวิต ก่อนที่จะสวมกอดกัน

ผู้สื่อข่าวถามนายอนุทินว่ารู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้เดินทางมายังพรรคประชาธิปัตย์ด้วยตัวเอง นายอนุทิน กล่าวว่า  ต้องมา เพราะก่อนหน้านี้นายเฉลิมชัยได้เดินทางไปแสดงความยินดีที่พรรคภูมิใจไทยทุกปี แต่ปีนี้ นายเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าพรรคเต็มตัวแล้ว นายเฉลิมชัยเมื่อตนเสร็จภารกิจที่พรรคก็รีบมา

เมื่อถามว่าภรรยาของนายอนุทินเดินทางมาด้วย นายอนุทิน หัวเราะพร้อมกล่าวเชิงหยอกล้อว่า ต้องเตือนภรรยาว่าระวังใส่เสื้อผิด เมื่อเช้าเขาจะคว้าเสื้อประชาธิปัตย์ใส่อยู่แล้ว เพราะเป็นคนใต้เหมือนกัน เมื่อถามอีกว่าจะมีการแลกเสื้อกันหรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะก่อนที่ทั้งหมดเดินเข้ามาร่วมรับประทานไอศครีม และพูดคุยหยอกล้ออย่างเป็นกันเอง จากนั้น นายอนุทินและคณะได้มาสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผมและถ่ายภาพร่วมกันอย่างชื่นมื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การมาร่วมแสดงความยินดีของนายอนุทินครั้งนี้ มีการโผกอดกับนายเฉลิมชัยหลายครั้งอย่างอารมณ์ดีพร้อมเสียงหัวเราะ ทั้งตอนที่เดินทางมาถึงพรรคประชาธิปัตย์ หลังการมอบแจกันดอกไม้ แม้กระทั่งก่อนจะขึ้นรถเดินทางกลับ ก็ยังกอดอำลาอีกรอบ โดยนายอนุทิน กล่าวว่า กอดกันวันที่ 6 เม.ย.ของทุกปี