สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า สหรัฐขอประณามในระดับสูงสุด ต่อการที่อิหร่าน และกองกำลังตัวแทนในเยเมน ซีเรีย และอิรัก ร่วมกันโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของอิสราเอล “อย่างรุนแรงในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
I condemn Iran's attacks in the strongest possible terms and reaffirm America’s ironclad commitment to the security of Israel.
— President Biden (@POTUS) April 14, 2024
My full statement on Iran’s attacks against Israel: pic.twitter.com/EuPJZoGw6w
ไบเดนกล่าวด้วยว่า ได้มีการให้คำมั่นโดยตรงกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล เกี่ยวกับ “ความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งของสหรัฐ” ในการปกป้องอิสราเอล และกล่าวด้วยว่า กองทัพสหรัฐในตะวันออกกลาง “มีบทบาทสำคัญ” ในการช่วยสกัดขีปนาวุธ และอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ที่อิหร่านยิงโจมตีใส่อิสราเอล
Missiles and drones launched by Iran were seen in the sky of Jerusalem as Israel intercepted. Iran’s diplomatic mission at the United Nations in New York said the attacks was carried out as an act of self-defence in response to the attack on its consulate in Damascus. pic.twitter.com/6ZNQCmq4lx
— Middle East Eye (@MiddleEastEye) April 14, 2024
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์ แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเรียกร้องคู่กรณีทุกฝ่ายอดกลั้นสูงสุด และหลีกเลี่ยงการดำเนินการแบบใดก็ตาม ที่อาจกลายเป็นการทำให้ภูมิภาคในตะวันออกกลางต้องเผชิญกับสงคราม
ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน และเรียกร้องประชาคมโลก “โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่มีอิทธิพล” ให้แสดงบทบาทอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลาง.
เครดิตภาพ : AFP