เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. แถลงผลกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนตามยุทธการ ‘สอบสวนกลางกวาดล้างปืนเถื่อน (CIB Ghost Guns Operation)’ หลังระดมพลปล่อยแถวตำรวจในสังกัดกว่า 1,000 นาย กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 126 จุด ทั่วประเทศ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา 


ผลปฏิบัติการสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 51 ราย ประกอบด้วยผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอาวุธปืน 3 ราย ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอื่น 2 ราย และผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและยาเสพติด 46 ราย พร้อมของกลางกว่า 1,000 รายการ แบ่งเป็นปืนกว่า 300 กระบอก แยกเป็นปืนทั่วไป 214 กระบอก ปืนสงคราม 4 กระบอก และปืนไทยประดิษฐ์ 35 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆอีก 3,562 นัด และอุปกรณ์ส่วนควบ หรืออุปกรณ์เสริมประสิทธิภาพอาวุธปืนอีกกว่า 700 รายการ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบปืนที่ยึดมาได้ทั้งหมดอย่างละเอียด พบว่าเป็นอาวุธปืนมีทะเบียน 139 กระบอก อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 65 กระบอก


พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากปัจจุบัน อาชญากรรมที่มีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ กำลังกลายเป็นภัยใกล้ตัวของประชาชน เห็นได้จากกรณีของเหตุการณ์ชิงทอง จ.ลพบุรี เหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมา เหตุการณ์จี้ตัวประกันบนรถเมล์สาย 8 ในกรุงเทพฯ และเหตุอาชญากรรมความรุนแรงต่างๆ ซึ่งจากการตรวจสอบปืนที่นำมาใช้ในการก่อเหตุส่วนใหญ่พบว่า เป็นปืนที่ซื้อขายหรือครอบครองโดยผิดกฎหมาย นอกจากจะเป็นภัยต่อประชาชนเเล้ว ยังเป็นต้นเหตุของการก่อให้เกิดกลุ่มผู้มีอิทธิพลและอาชญากรรมที่มีความรุนเเรงในสังคม ด้วยเหตุนี้จึงสั่งการให้หน่วยงานต่างๆในสังกัดสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. บูรณาการกำลังร่วมกันสืบหาเบาะแสและข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายอาวุธปืนเถื่อนต่างๆ ทั่วประเทศ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐาน นำไปสู่ปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 126 จุด จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดของกลางได้ดังกล่าว 


สำหรับพื้นที่สำคัญต่างๆที่ตรวจยึดอาวุธปืนได้เป็นจำนวนมาก มีด้วยกัน 6 จุดหลักๆ อยู่ในพื้นที่ กรุงเทพฯ เชียงราย นครปฐม สุพรรณบุรี และ ปทุมธานี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งผลิต และ แหล่งจำหน่าย ทั้งนี้จากการแนวทางสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับในคดีครอบครองอาวุธปืนเถื่อนส่วนใหญ่จะเป็นการทำเพื่อการค้า และกลุ่มคนเล่นปืนหรือนักสะสมปืน ส่วนเส้นทางที่ไปที่มาของปืนเถื่อนเหล่านี้จะสั่งซื้อหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศ หรืออย่างใกล้ก็ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็มีบางส่วนที่ผลิตดัดแปลงขึ้นมาเอง ขั้นตอนหลังจากนี้จะนำปืนทั้งหมดส่งต่อไปให้กับทางกองพิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์เทียบเคียงกับคดีเก่าต่างๆ เพื่อตรวจสอบว่าเคยถูกนำไปใช้ก่อคดีใดมาแล้วหรือไม่ นอกจากนี้ การที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง ผบช.ก. ยืนยันว่า บช.ก. จะยึดมั่นในแนวทางการปราบปรามอาชญากรรมเป็นหลัก มุ่งเน้นไปที่คดีที่มีความสำคัญ เกี่ยวพันซับซ้อนหรืออาชญากรรมความรุนแรงทุกประเภท ยืนยันว่า ตำรวจสอบสวนกลางจะให้ความยุติธรรม ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพเป็นกลางเคียงข้างประชาชน