เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 67 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ทำการจับกุมตัวนายภูดิศ ชลิตชินภัทร อายุ 39 ปี และนายอดิศักดิ์ วงค์คม อายุ 45 ปี ทั้งสองเป็นชาวเชียงใหม่ พร้อมของกลางเงินสด 36.98 ล้านบาท ตลับใส่เครื่องประดับ 2 ตลับ ตุ้มหูเพชร ตลับละ 1 คู่ และตลับเปล่า โดยจับกุมได้ที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนนำตัวทั้ง 2 คน ดำเนินดคีข้อหา “ร่วมกันทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น โดยใช้ยานพาหนะ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยร่วมกระทำความผิดตั้ง 2 คนขึ้นไป, โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”
สืบเนื่องมาจากกลางดึกคืนวันที่ 11 เม.ย. 67 ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ว่ามีคนร้ายเข้าไปงัดแงะบ้านหรูแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แม่เหียะ โดยคนร้ายกวาดเอาทรัพย์สินภายในบ้าน อาทิ เงินสด 38.7 ล้านบาท พระเครื่องเลี่ยมทอง 15 องค์ มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท พระเครื่องสำคัญอีกกว่า 300 องค์ มูลค่า 20 ล้านบาท ทองคำอื่นๆ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปกว่า 76 ล้านบาท ก่อนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงติดตามจากกล้องวงจรปิด ก็พบรถ จยย. ของคนร้าย ที่เข้ามาก่อเหตุ และติดตามเส้นทางการหลบหนีอื่นๆ กระทั่งรู้ว่าคนร้ายทั้งสองคนร่วมก่อเหตุ จึงนำกำลังบุกเข้าจับกุมใและยึดของกลางดังกล่าว
พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับบ้านผู้เสียหายเป็นอย่างดี เพราะร่วมทำการค้ากันมานานกว่า 10 ปี โดยผู้เสียหายเป็นนักธุรกิจอสังหาฯ รับเหมาก่อสร้าง คอยซื้อบ้าน หอพัก คอนโดฯ มารีโนเวทแล้วขายต่อ ทำให้ต้องเก็บเงินสดไว้จำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นไลฟ์โค้ชทางยูทูบชื่อดังอีก ส่วนผู้ต้องหาเปิดบริษัททำกลอนประตู และทำธุรกิจร่วมกับผู้เสียหายมานาน แต่ช่วงราวๆ 2 ปีที่ผ่านมา มักขัดแย้งทะเลาะกันเรื่องเงินจากการทำงาน ทำให้ผู้ต้องหาแค้นใจอย่างมาก ที่ทำงานแล้วได้เงินไม่ครบ
ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เผยอีกว่า จึงอาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายไม่อยู่บ้าน แล้วแอบลอบเข้าไปสะเดาะกลอนประตู กวาดทรัพย์สินของผู้เสียหายออกมาทั้งหมด โดยคนร้ายเก็บแต่เงินสดไว้ ส่วนทองคำพระ ห่อใส่ถุงขยะทิ้งไว้ในกองขยะริมถนน ซึ่งตรงนี้ทางตำรวจกำลังจะไปเช็กกล้องวงจรปิด และหาว่าของกลางอยู่ที่ไหนใครเอาไป ส่วนเงินสดที่ได้คืนมาไม่ครบ เพราะผู้ต้เองหาเอาไปซื้อทองกับรถยนต์ ซึ่งจะมีการสอบสวนปากคำ นำทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหายต่อไป
