วันที่ 23 เม.ย. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักดำเนินโครงการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยขณะนี้ยังไม่สามารถเคาะวันได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบด้วย ซึ่งรัฐบาลต้องรอบคอบทั้งด้านความเสถียรของแอปพลิเคชัน ความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน และราชการ ดังนั้นจะเร่งเกินไปเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ปฏิบัติ
“ยืนยันตามเดิมว่าจะสามารถลงทะเบียนเพื่อยืนยันสิทธิได้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 67 และเริ่มใช้สิทธิในไตรมาสที่ 4 ของปี 67”
ขณะเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้สั่งการกรณีเกิดข้อสงสัยในประเด็นใดในการดำเนินโครงการนี้ ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ ซึ่งการที่ส่งกฤษฎีกาตีความเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดเป็นสิ่งที่รัฐบาลพร้อมทำอยู่ตลอดเวลา เพราะยังมีเวลาอีก 3-4 เดือน ในการดำเนินการ
ขณะที่กระบวนการดำเนินการตามมาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เป็นกระบวนการหนึ่งดำเนินการกึ่งวินัยการเงินการคลัง ซึ่งกระบวนการนี้จะสามารถดำเนินการได้ตามกรอบมาตรา 28 จะดำเนินการได้ในช่วงเดือน ต.ค. 67 โดยช่วงนั้นจะการดำเนินการผ่านบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต และนำเข้าสู่การพิจารณา ครม.อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 22 เม.ย. สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เข้ามายื่นหนังสือพร้อมสอบถามในรายละเอียดในการดำเนินโครงการนี้ ซึ่งทุกฝ่ายได้เข้าใจกันดีในการดำเนินนโยบายโครงการนี้เพราะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร โดยเรื่องที่กลุ่มสหภาพฯ เป็นห่วงที่สุดคือเรื่องอำนาจหน้าที่ซึ่งได้อธิบายกับกลุ่มสหภาพฯ ไปตามที่มติ ครม. เห็นชอบว่าจะส่งให้กฤษฎีกาตีความเพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ
“ยืนยันว่าระบบการเงินของ ธ.ก.ส. มีเสถียรภาพและความมั่นคงสูง เพราะอย่าลืมว่ารัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้น 100% และรัฐบาลมีแต่เสริมความแข็งแกร่งให้ ธ.ก.ส. เนื่องจาก ธ.ก.ส. เป็นปีกหลักปีกหนึ่งในการดำเนินนโยบายให้ของรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกร และรัฐบาลทุกชุดใช้บริการเกษตรกรมาตลอด และรัฐบาลนี้ก็เช่นกัน ยืนยันว่ามีแต่จะทำให้แข็งแกร่งขึ้น และการดำเนินการใดๆ จะไม่ทำให้กระทบสวัสดิภาพของลูกจ้าง ธ.ก.ส.”
นอกจากนี้รัฐบาลมีกระบวนการเติมทุนให้กับ ธ.ก.ส. ซึ่งเมื่อรัฐบาลเติมเงินให้กับ ธ.ก.ส. 1 บาท ธ.ก.ส.จะสามารถปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกรได้ 11 บาท ดังนั้นเป็นกระบวนการหนึ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนจะเติมทุนให้เท่าไรและเมื่อใดนั้น จะต้องรอให้มีการหารือกันอีกครั้งก่อนถึงจะได้ข้อสรุป พร้อมยืนยันว่าประชาชนที่ได้รับสิทธิจะได้ใช้พร้อมกันและได้เงินเป็นเงินก้อนไม่มีการแบ่งจ่าย เพราะรัฐบาลต้องการให้เกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ เมื่อลงทุนทีเดียวจะเกิดการลงทุนการจ้างงาน