ปกติแล้ว เนื้อหนูไม่ใช่เนื้อที่คนทั่วไปนิยมบริโภค แต่ในเมืองซานหลุยส์ โปโตซี ประเทศเม็กซิโก เมนูที่ทำจากเนื้อหนูคืออาหารที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งยังแฝงด้วยความเชื่อว่ามีประโยชน์เหมือนยารักษาโรค 

อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงยุคปัจจุบัน ร้านจำหน่ายเนื้อหนูและอาหารที่ทำจากเนื้อหนูกลับหายไปจากตลาดท้องถิ่นจนแทบจะไม่เหลือ กระทั่งเหลืออยู่เพียงร้านเดียวที่ยังขายอยู่ในตลาดเรปูบลิกา เด ซานหลุยส์ โปโตซี โดยเมนูเด็ดของร้านนี้คือเนื้อหนูดิบและต้มซุปหนูซึ่งเป็นการเคี่ยวเนื้อหนูกับน้ำซุปพร้อมกับผักและเครื่องเทศหลายชนิด

ในแต่ละถ้วยของต้มซุปหนูที่เสิร์ฟ ผู้ซื้อจะได้รับหนูทั้งตัว โดยขายในราคาถ้วยละ 100 เปโซ (ราว 214 บาท) 

เจ้าของร้านต้มซุปหนูร้านสุดท้ายในตลาดแห่งนี้คือ โฮเซ เรเมดิโอส เฮร์นันเดซ เขามีชื่อเล่นว่า “กามิโล” เขาคือผู้รับสืบทอดกิจการและสูตรอาหารจานเด็ดนี้มาจากแม่ของเขาที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน 

กามิโล เล่าว่า เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนมีคนขายเนื้อหนูอยู่ในตลาดหลายสิบราย แต่ต่อมาคนขายเนื้อหนูเหล่านั้นก็เลิกขายเพราะเกษียณอายุไปหรือไม่ก็เสียชีวิต และตอนนี้ก็เหลือเขาเพียงรายเดียวที่ยังขายเนื้อหนูอยู่ในตลาด

กามิโล กล่าวว่า เขายังไม่มีแผนที่จะเลิกทำธุรกิจนี้ในเวลาอันใกล้ ยิ่งไปกว่านั้น ร้านค้าของครอบครัวของเขาก็เปิดกิจการมาเป็นเวลานานถึง 52 ปีแล้ว และเขาก็อยากจะเปิดร้านต่อไปเรื่อย ๆ ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

หนูทุกตัวที่ กามิโล ใช้ทำต้มซุปเป็นหนูที่จับมาจากพื้นที่ในชนบทที่อยู่นอกเมืองและชุมชนหรือเมืองซานหลุยส์ โปโตซี ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นเนื้อหนูที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก เขายังอ้างว่าเนื้อหนูนั้นมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน, ผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยโรคมะเร็ง เพราะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นและรู้สึกเจริญอาหาร

กามิโล ขายทั้งต้มซุปเนื้อและเนื้อหนูดิบสำหรับคนที่ต้องการนำเนื้อหนูไปปรุงอาหารเองที่บ้าน โดยขายในราคาตัวละ 90 เปโซ (ราว 192 บาท) เขาแนะนำว่าถ้าจะให้อร่อย ต้องปรุงโดยใช้ผักและเครื่องเทศร่วมด้วย ซึ่งจะเข้ากับรสชาติของเนื้อหนูได้ดีมาก

ที่มาและเครดิตภาพ : odditycentral.com