พล.ท.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ มทน.ที่4 ทำหน้าที่หน.ฝ่ายเทคนิคของคณะพูดคุยสันติสุข ที่มีนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาสมช.เป็นหน.คณะพูดคุยฯเปิดเผยถึงการพูดคุยของฝ่ายเทคนิคกับตัวแทน BRN ที่มาเลเซียตลอดช่วงสองวันที่ผ่านมา ยังคงมีเจตจำนงค์ร่วมกัน ใช้การพูดคุยตามกรอบแผนความเข้าใจร่วมในการสร้างสันติสุข หรือJCPP(JOINT COMPREHENSIVE PLAN TOWARDS PEACE ) ที่ทั้งสองฝ่ายให้ความเห็นชอบแล้วไปสู่การสร้างสันติสุขถาวรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในการพูดคุยครั้งล่าสุด ทั้งสองฝ่ายสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการพูดคุยจากการพูดคุยอย่างเป็นทางการผ่านล่ามเป็นการสื่อสารกันโดยตรงไม่ต้องใช้ล่ามในการแปลภาษา สามารถสื่อสารกันได้อย่างเปิดอกมีความเข้าใจกันมากขึ้น โดยที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงร่วมกันในเรื่องกรอบเวลาของการพูดคุยในสองห้วงเวลาก่อนลงนามร่วมกันในข้อตกลงสันติภาพเพื่อสันติสุขถาวรในจชต.
ทั้งนี้ คณะเทคนิคของทั้งสองฝ่ายสรุปผลการพูดคุยคณะทำงานทางเทคนิค ห้วง 28-29พ.ค.67 ในเรื่องแรกเจตจำนงค์ของการพูดคุย ทั้ง2ฝ่ายเห็นพ้องเดินหน้าการพูดคุยให้เป็นไปตามกรอบ JCPP โดยให้เร่งรัดหาข้อสรุปร่วมกันให้มีความคืบหน้าเพื่อมิให้เกิดความล่าช้า ร่วมกันสร้างบรรยากาศการพูดคุยให้มีความใกล้ชิดและเป็นกันเองให้มากขึ้นด้วยการให้เวลากับคณะพูดคุยทางเทคนิคของทั้ง2ฝ่ายพูดคุยกันเองโดยไม่ต้องใช้ล่ามแปลภาษา ปรับเปลี่ยนรูปแบบการพูดคุยคณะเทคนิคให้เป็นแบบไม่เป็นทางการให้มากขึ้น เพื่อนำประเด็นที่ยังหาข้อสรุปร่วมกันไม่ได้ไปพูดคุยวงเล็กนอกรอบ หรือจัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ(Workshop)เฉพาะกรณีแต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้อำนวยความสะดวกฝ่ายมาเลเซีย เรื่องที่สองกรอบระยะเวลาที่มาใช้เป็นกรอบในการพูดคุย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันกำหนดระยะเวลาพูดคุยเป็นสามระยะ ระยะที่1 ประมาณ 3เดือน คือภายหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ JCPPแล้ว ก็จะเริ่มดำเนินการในกิจกรรมของระยะที่หนึ่ง ระยะที่ 2 ใช้เวลา 6เดือน และระยะที่3 ให้ดำเนินการภายหลังเสร็จสิ้นระยะที่ 2จนสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติความขัดแย้งกันได้ ทั้งนี้ระยะเวลาสามารถปรับให้มีความยืดหยุ่นได้ ขึ้นกับสถารการณ์ในแต่ละห้วงเวลา ในห้วงไหนที่เราสามารถดำเนินการเสร็จได้เร็ว ก็ปรับระยะต่อไปเข้ามาต่อได้เลย
สำหรับรายละเอียดกิจกรรมไปบรรจุในแต่ละระยะเวลาจะมีการลงรายละเอียดว่าในแต่ละห้วงเวลาจะมีกิจกรรมให้แต่ละฝ่าย ดำเนินการอะไรบ้าง เช่นในระยะแรกสามเดือน ฝ่ายรัฐจะต้องทำอย่างไร BRNจะต้องทำอย่างไร ระยะหกเดือนและหลังจากนั้น ความคาดหวังจากการพูดคุยจากที่เราพยายามปรับเปลี่ยนสร้างบรรยากาศให้เป็นกันเองใกล้ชิดกันมากขึ้นมีการทานอาหารร่วมกัน ทำให้เราสามารถสื่อสารกันได้อย่างเปิดอกมากขึ้น ที่สำคัญคือการสื่อสารโดยที่ไม่ต้องมีล่ามมาแปลภาษาทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถที่จะเสนอความต้องการได้ง่ายมีความเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น สิ่งที่เป็นความคาดหวังของคณะพูดคุยทางเทคนิคในครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะยังไม่สำเร็จ 100 เปอร์เซนต์ ในวันพรุ่งนี้จะเป็นการพูดคุยในเรื่องของการลดความรุนแรง ว่าจะมีกิจกรรมอะไรบ้างก็น่าจะมีความคืบหน้า และ ในเบื้องต้นคณะพูดคุยฝ่ายไทยได้กำหนดไว้แล้วจะได้มีการเสนอหารือกันอีกครั้ง น่าจะอยู่ในช่วงกลางเดือนหน้า ยังมีประเด็นในเรื่องของการลงรายละเอียดเช่นในเรื่องของกลไกติดตามสถานการณ์ ซึ่งมีทั้งกลไกส่วนกลางและกลไกภาคสนาม หรือในเรื่องของโครงสร้าง วันนี้เราก็มีการหารือกันเบื้องต้น มีการตกลงในสาระสำคัญส่วนใหญ่ แต่ยังมีบางจุดที่ต้องมีการหารือเพิ่มเติม แต่สิ่งที่สำคัญคือในเรื่องของการกำหนดบทบาทหน้าที่ในเรื่องการบริหารจัดการ การสนับสนุนต่างๆ มันจะต้องมีการลงรายละเอียดปลีกย่อยเยอะ เพราะว่าในส่วนของกลไกติดตามสถานการณ์ มันมีหน้าที่ต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ ซึ่งมันจะต้องมาลงในรายละเอียดว่าจะสามารถไปติดตามสถานการณ์ในเรื่องอะไรบ้าง เรื่องเหตุการณ์ความรุนแรง เรื่องการบิดเบือนข้อเท็จจริง การบ่มเพราะหรืออะไรก็ตามจะต้องมีการกำหนดบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนกันอีกครั้งต่อไป