เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 พฤษภาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมกิจกรรม “10 เดือนที่ไม่ต้องรอ ทำต่อให้เต็ม 10” ซึ่งจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. ในนามพรรคเพื่อไทย โดยทันทีที่นายเศรษฐามาถึง ได้มีว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. ในนามพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน, นายอนุวัธ วงศ์วรรณ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.แพร่, น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ลำปาง และนายวิเชียร สมวงศ์ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ยโสธร รอให้การต้อนรับ 

จากนั้นนายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีความกังวลหรือไม่ ว่า ต้องติดตามกันต่อไป แต่ตนคิดว่าเราได้ตรวจสอบคุณสมบัติของว่าที่รัฐมนตรีทุกคน รวมถึงผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ส่วนกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่า ในเรื่องจริยธรรมสุดท้ายต้องส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณานั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบในเรื่องรายละเอียดของขั้นตอน 

เมื่อถามว่าที่มีการร้องให้ตรวจสอบนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญแต่เราต้องให้โอกาสคนถูกพาดพิง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย 

เมื่อถามต่อว่า จากกรณีนี้อาจส่งผลกระทบต่อตัวนายกรัฐมนตรีด้วย นายเศรษฐา ตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ไม่ครับ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย”  

เมื่อถามถึงกรณีที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งสามารถทำผลงานให้กับประชาชนได้ โดยเฉพาะภาคอีสานที่เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย แต่ขณะนี้เจ้ากระทรวงและรัฐมนตรีช่วยมาจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าไปมองว่ากระทรวงเป็นของใคร ของพรรคไหน ใครเป็นรัฐมนตรี เราทำงานในพรรคร่วม เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีการประสานงาน การพูดคุยตลอดระหว่างรัฐมนตรี สส. ในพื้นที่ มีการประสานแจ้งถึงปัญหาและโครงการที่ควรจะทำ เราเป็นรัฐบาลเดียวกันมาเพื่อพี่น้องประชาชน อย่ามองว่าแยกเป็นพรรคไหนจะดีกว่า 

เมื่อถามต่อว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะได้รับการผลักดันใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า แน่นอน.