จากกรณี สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป ได้รับรายงานจากตำรวจไต้หวัน กรณี น.ส.สุดธิดา แสนแสง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 หมู่ 7 บ้านกุดนาค้อ ต.ตาดทอง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี เสียชีวิตจากการถูกทำร้าย เสียชีวิตบนภูเขา ในพื้นที่เมืองจีหลง ประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 11พ.ค.67 นั้น
สุดช็อก! สาวไทยถูกแทงดับโยนทิ้งกลางป่าไต้หวัน มือสังหารคือคนใกล้ตัว
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 12 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 138 หมู่ 7 บ้านกุดนาค้อ ต.ตาดทอง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี พบญาติและเพื่อนบ้านนั่งจับกลุ่มพูดเรื่องการเสียชีวิตของ น.ส.สุดธิดา โดยนางดวงพร ช่างเหล็ก อายุ 59 ปี ป้า น.ส.สุดธิดา ผู้ตาย เล่าว่า เป็นคนเลี้ยงผู้ตายมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่ผู้ตายจะไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ ผู้ตายแยกทางกับสามี มีลูก 2 คน เป็นผู้ชายทั้งคู่ อายุ 14 ปี และ 4 ปี เมื่อเดือนเม.ย.66 ก่อนเดินทางไปทำงานร้านนวดแผนโบราณที่ไต้หวัน เพราะต้องการหาเงินเลี้ยงลูก และอยากทำบ้านให้ลูก โดยขอวีซ่าไป 3 เดือน พอวีซ่าหมดจะกลับบ้าน แต่ไม่อยากกลับเพราะได้เงินดี จึงทำงานต่อ ผู้ตายส่งเงินกลับมาเลี้ยงลูกเดือนละ 4,000- 7,000 บาท ผู้ตายจะโทรฯมาหาลูกประจำ เพราะห่วงลูก
ก่อนเกิดเหตุ ทราบว่า ผู้ตายได้ย้ายงานใหม่ ไปสมัครทำงานแม่บ้าน ได้ 3 วัน ก่อนโทรฯกลับมาเล่าให้ฟังว่า นายจ้างใช้งานหนัก ไม่ยอมให้พักผ่อน โดยนางจ้างเป็นชาวไต้หวัน แต่มีภรรยาเป็นชาวไทย จ.ลำปาง ทำงานหนักมาก แต่จะอดทนถ้าได้เงินเก็บสักก้อนมาทำบ้านใหม่ โดยจะสะสมทองไว้ 4-5 บาท คืนเกิดเหตุ ผู้ตายโทรฯมาเล่าว่า นายจ้างผู้หญิงใช้ซักกางเกงใน ด้วยความโมโหประกอบกับไม่ยอมให้กินข้าว ผู้ตายเลยเตะถังน้ำใส่นายจ้าง และช่วง 19.00 น. คืนเดียวกัน ผู้ตายเล่าว่านายจ้างชวนขึ้นไปเก็บผักบนภูเขา และเดินทางไป 20.00 น. พอตื่นเช้าแฟนหนุ่มชาวนครพนม ที่พบรักกันอยู่ไต้หวัน โทรฯมาบอกว่าลูกสาวถูกฆ่าตายบนภูเขา และติดต่อกับผู้ตายตลอดทำให้รู้พิกัดและเป็นผู้แจ้งตำรวจ
“มีลางสังหรณ์ หนังตาข้างขวากระตุก 2-3 วัน เสียใจที่สุด พอทราบข่าวก็แค้น เพราะเลี้ยงผู้ตายมาตั้งแต่เล็ก และยังเลี้ยงหลานอีก ลูกคนโตผู้ตายพอรู้เรื่องก็นั่งร้องไห้ สงสารหลานมากซึ่งตนสงสัยนายจ้างจะเป็นคนฆ่า อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้”
ส่วนนางผ่องอำไพ โคตรมณี อายุ 45 ปี แม่ผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า มีลูก 2 คน น.ส.สุดธิดา เป็นลูกคนสุดท้อง ตนไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯประจำ โดยมีพี่สาวเลี้ยงผู้ตาย แต่เมื่อ 3 วันก่อนได้กลับมาบ้าน เพื่อหางานทำที่บ้าน และดูแลหลาน ก่อนลูกจะเสียชีวิต ก็ได้โทรณคุยกับลูกตอนกลางคืน พอตื่นเช้ากำลังจะไปทำงาน เพื่อนลูกโทรฯมาบอกว่าลูกฆ่าตัวตาย ตนก็เถียงไปว่าจะฆ่าตัวตายทำไม เพราะผู้ตายห่วงลูกมาก ตนรู้สึกเสียใจมาก ใจสลาย สงสารลูกสาว ก่อนลูกจะเสียชีวิต ตนมีลางสังหรณ์สุนัขหอนทั้งคืน สุนัขหอนก็คิดว่าหาเห็นวิญญาณเพื่อนบ้านที่ตายมากกว่า ไม่คิดว่าจะเป็นวิญญาณลูก อยากได้ศพลูกกลับบ้าน อยากให้ทางการจับคนร้ายให้ได้.
