เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ได้เกิดพายุลมฝนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงขึ้นในหลายหมู่บ้านของพื้นที่ตำบลหนองกลางดง อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี นานกว่า 30 นาที สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชนไปหลายหลังคาเรือน พร้อมทั้งยังมีผู้เสียชีวิตจากการเกิดแรงลมพายุฝนในครั้งนี้ โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลหนองกลางดง ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวเดชทอง อายุ 62 ปี หนึ่งในบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุพายุพัดต้นประดู่แฝดอายุกว่า 50 ปี ล้มทับลงมาใส่เพิงพักจนได้รับความเสียหาย รวมทั้งได้พรากชีวิตหลานสาววัย 3 ขวบไปพร้อมกัน
นางสาวเดชทอง ผู้เป็นยายของน้องชมพู หนูน้อยวัย 3 ขวบที่เสียชีวิต เล่าว่า ตอนเกิดเหตุนั้นได้มีพายุลมฝนโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงจนทำให้ต้นไม้ถอนรากถอนโคนล้มทับเพิงพักและตัวน้องชมพูจนเสียชีวิตคาที่ ส่วนตนเองได้รับบาดเจ็บที่แขนจากเศษไม้ที่กระเด็นมาโดน ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้นตนเองกำลังป้อนหมี่ผัดให้หลานอยู่ ซึ่งไม่คาดคิดเลยว่าลมจะรุนแรงถึงขนาดนี้ จึงไม่ได้หนีขึ้นจากเพิงพัก และวันนี้ยังเป็นวันเกิดครบ 3 ขวบน้องชมพูอีกด้วย ซึ่งหลานนั้นบอกกับยายว่า อยากเป่าเค้กวันเกิด ตนเองจึงเตรียมเค้กและไก่ทอดไว้ให้หลานโดยบอกกับหลานว่าจะเป่าเค้กกันตอนเย็นหลังจากที่ตากลับมาจากเลี้ยงควาย แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์นี้เสียก่อน

นายประสาร วิมลมุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกลางดงได้ลงพื้นที่พร้อมกับเจ้าหน้าที่ อบต. และชาวบ้านได้เข้ามาช่วยเหลือตัดต้นไม้ที่ล้มทับร่างของน้องชมพู โดยพบว่าน้องชมพูนั้นมีบาดแผลเล็กน้อยที่บริเวณหลัง แต่สาเหตุการเสียชีวิตนั้นเกิดจากคอหัก ซึ่งทางยายและญาติไม่ติดใจถึงสาเหตุการตายเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มอบศพน้องชมพูให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา
ทั้งนี้ยังพบว่าแรงลมพายุครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชนตำบลหนองกลางดงไปทั้งหมด 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 4, 9, 10 และ 15 มีบ้านเรือนเสียหายหลายสิบหลังคาเรือน โรงเรือนที่มีรถจอดอยู่พังเสียหาย 1 คัน และมีบ้านที่หลังคาปลิวว่อนเสียหายจนอยู่อาศัยไม่ได้อีกนับร้อยหลังคาเรือน รวมทั้งยังมีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนนอีกหลายสาย ซึ่งทางส่วนราชการและผู้นำในพื้นที่ได้เร่งนำเจ้าหน้าที่ คนงาน และชาวบ้านจิตอาสาระดมเลื่อนยนต์ตัดต้นไม้ที่ล้มขวางถนนจนใช้การได้ตามปกติ ส่วนบ้านเรือนจะได้ออกสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป