สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ว่า นายโจเซป บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวระหว่างร่วมงานเสวนาทางวิชาการ ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในเมืองซานฟรานซิสโก ว่าสงครามในฉนวนกาซา “คือหายนะซึ่งเกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์”


ขณะเดียวกัน อียูมองเห็น “ความเหนื่อยล้า” ของสหรัฐ ที่กำลังเกิดขึ้นกับการผลักดันกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง สหภาพยุโรปจึงพยายามร่วมกับกลุ่มประเทศโลกอาหรับ ขับเคลื่อนให้แนวทางสองรัฐสามารถเกิดขึ้นได้จริงในทางปฏิบัติ


เกี่ยวกับผลการลงมติของสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งปรากฏว่า การยกสถานะผู้สังเกตการณ์ให้แก่ปาเลสไตน์ ได้รับเสียงสนับสนุนท่วมท้น แต่เมื่อวิเคราะห์ในรายละเอียด โดยแยกเป็นรายประเทศ บอร์เรลล์ยอมรับว่า ผลการหยั่งเสียงสะท้อน “ความแตกแยก” ของอียูเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ยังคงมีอยู่” จากการที่ฮังการีและสาธารณรัฐเช็ก ออกเสียงคัดค้าน ส่วนฝรั่งเศสและเยอรมนีงดออกเสียง


ทั้งนี้ นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ เยือนตะวันออกกลางแล้ว 7 ครั้ง นับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซาปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 เพื่อกดดันให้อิสราเอลเปิดทาง สำหรับการเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ฉนวนกาซา การที่อิสราเอลต้องควบคุมความสูญเสียซึ่งเกิดขึ้นกับพลเรือน และการผลักดันให้อิสราเอลและซาอุดีอาระเบียสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ


อย่างไรก็ตาม สหรัฐคัดค้านการมอบสถานะสมาชิกยูเอ็น “เต็มรูปแบบ” ให้แก่ปาเลสไตน์ โดยกล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นจริงได้ต้องผ่านการเจรจากับอิสราเอล “อย่างจริงจัง” เท่านั้น.

เครดิตภาพ : AFP