เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (14 พ.ค.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ได้อ่านคำพิพากษาชั้นไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ กับพวกรวม 10 ราย ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจค้นจับกุมว่า ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ใช้อำนาจ ในตำแหน่ง โดยมิชอบข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และมาตรา 157

พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ โจทก์คดีนี้ กล่าวฟ้องว่า ได้ถูกจำเลยทั้งสิบ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันจับกุมโจทก์ตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 896/2566 ลงวันที่ 22 ก.ย. 2566 และเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 35หมู่ 11 ตำบลมาบแค อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ตามหมายค้นของศาลอาญา ที่ 1151/2566 ลงวันที่ 24 ก.ย. 2566 กล่าวหาว่า โจทก์สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน

แต่จำเลยทั้งสิบ ได้ตรวจค้นจับกุมโจทก์พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน โดยโจทก์ได้โต้แย้งและคัดค้านทรัพย์สินบางรายการไม่ได้เกี่ยวข้องตามข้อหาแต่อย่างใด และทรัพย์บางรายการก็เป็นของใช้ส่วนตัวของโจทก์ และบางรายการก็เป็นของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แต่จำเลยทั้งสิบคนกลับกระทำการบังคับ ขู่เข็ญ ให้โจทก์จำยอม และบังคับยึดทรัพย์ต่าง ๆ ไปโดยไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียแก่โจทก์และบุคคลอื่น

โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 7 ได้ พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ ประกอบข้อเท็จจริงตามรายงานเจ้าพนักงานคดีตามรายงานเจ้าพนักงานคดีแล้ว เห็นว่า คดีมีข้อเท็จจริงที่สามารถวินิจฉัยได้ จึงมีคำสั่งให้งดกระบวนพิจารณาที่จะมีต่อไปและยกเลิกนัดกำหนดแนวทางไต่สวนมูลฟ้อง โดยวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสิบได้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้ว การกระทำไม่เป็นความผิด พิพากษายกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ชุดตำรวจที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องคดีเว็บการพนันและถูกจับกุม ซึ่งเป็นลูกน้องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ยื่นฟ้องชุดพนักงานสอบสวนและชุดจับกุมหลายคดีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในศาลอาญาคดีทุจริตฯ ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องมาโดยตลอด.