เมื่อเวลา 07.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งช้ากว่าเวลาที่กรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง วันที่ 16 พ.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ประธานผู้แทนการค้าไทย เดินทางถึงท่าอากาศยานปารีส-ออร์ลี (Paris-Orly Airport) โดยมีผู้แทนฝ่ายฝรั่งเศส รวมทั้งนายบุญญฤทธิ์ วิเชียรพันธุ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีสและข้าราชการให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายกฯ ได้ใช้รถยนต์ เบนซ์ ป้ายทะเบียน GF 483 AN ในการปฏิบัติภารกิจเยือนฝรั่งเศสในครั้งนี้
จากนั้นนายกฯ พร้อมคณะ เดินทางไปยังโรงแรมแฟรงซ์ เดอ กาลล์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่พักแบบ Day Use ก่อนที่เวลา 10.20 น. นายกฯ และคณะกลุ่มเล็ก จะเดินทางไปยังศูนย์ประชุม L’Apostrophe เพื่อเข้าร่วมประชุม Thailand – France Business Forum โดยนายกฯ จะกล่าวปาฐกถาในงาน Thailand – France Business Forum ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนไทยและฝรั่งเศส ซึ่งเกิดขึ้นจากการผลักดันของนายกรัฐมนตรีและนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ทั้งนี้ ในงาน Thailand – France Business Forum นายกฯ จะพบกับ นายฟรองซัวส์ กอร์แบง (François Corbin) ประธานสภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย และรองประธานสภานายจ้างฝรั่งเศสในต่างประเทศ MEDEF International (MEDEFi) และ นาย Franck Riester รมว.ต่างประเทศ ด้านการค้าต่างประเทศ ความน่าสนใจ ทางเศรษฐกิจ และคนชาติในต่างประเทศ (Delegate Minister for Foreign Trade, Economic Attractiveness, Francophonie and French Nationals Abroad, attached to the Minister for Europe and Foreign Affairs) โดยมีบริษัทเอกชนสำคัญของทั้ง 2 ประเทศในสาขาที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ สาขาพลังงาน สาขาคมนาคมขนส่ง สาขาการบริการ โรงแรม Hospitality สาขาอาหาร สาขาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และอื่น ๆ
ทั้งนี้ นายกฯ มีกำหนดการพบหารือกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นโอกาสกระชับความสัมพันธ์ ในการพบกันครั้งที่ 2 ของปี 2567 โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ที่ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส (Palais de l’Elysée) ต่อมาเวลา 13.40 น. นายกฯ เดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (Palais de l’Elysée) เพื่อพบกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นโอกาสกระชับความสัมพันธ์ ในการพบกันครั้งที่ 2 ของปี 2567 โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกฯ ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน โดยเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจในการเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส
ทั้งนี้เวลา 16.00 น. นายกฯ พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานปารีส-ออร์ลี ไปยังเมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี โดยจะเดินทางถึงเวลา 17.50 น. โดยประมาณที่ท่าอากาศยานมิลาน มาลเปนซา โดยมีนายพุทธพร อิ้วตกส้าน เอกอัครราชทูตณกรุงโรม และนายอัลแบร์โต เวอร์จิลีโอ กรมสุดใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำเมืองมิลาน ให้การต้อนรับ ก่อนที่นายกฯ และคณะ จะเดินทางไปยังโรงแรมที่พัก ปาร์ค ไฮแอท มิลาน โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม เดินทางมาร่วมคณะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเดินทางมายังสาธารณรัฐฝรั่งเศส นายกฯ ได้สวมผ้าพันคอ “ผ้าลายอย่าง” ลาย “เพ็ชรราชวัตร” โดยผ้าลายอย่างผืนนี้ คือ ลาย “เพ็ชรราชวัตร” ถอดลายมาจากผ้าลายอย่างของอินเดีย ที่ใช้ห่อคัมภีร์ที่วัดลาด
โดย นายกฯ เปิดเผยว่า ร้านผ้าบ้านชะอานมอบผ้าพันคอผืนนี้ให้ผม ก่อนเข้าประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดเพชรบุรี และตนได้แจ้งไว้ว่าตนจะตั้งใจพกผ้าผืนนี้เดินทางไปทริป ฝรั่งเศส-อิตาลี เพื่ออวดความสวย ความประณีตของงานผ้าไทย พร้อมกับถ่ายทอดความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ ให้ชาวอิตาลีให้เห็นว่าศิลปะไทยเราไม่น้อยหน้าใคร วันนี้ผมทำตามที่พูดไว้ และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นสินค้าที่มีคุณภาพของคนไทย เช่น ผ้าลายอย่าง นี้ได้รับการต่อยอด ทั้งด้านการผลิตและการขาย เพื่อนำรายได้เข้าสู่จังหวัด.