ตลาดอสังหาฯ ปี 2567 นี้ ถือเป็นปีที่ผู้ประกอบการในธุรกิจต้องใช้ความระมัดระวังในการบริหารจัดการความเสี่ยงของตนเอง และบริหารจัดการสต๊อกคงค้างในส่วนของบริษัทให้สอดคล้องกับมาตรการของรัฐบาล อีกทั้งยังต้องบริหารการเปิดขายโครงการใหม่ให้ต่อเนื่อง รวมทั้งยังต้องมีการบริหารความเสี่ยงในส่วนของกำลังซื้อ หรือผู้ที่สนใจจะซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองด้วย
ซึ่งเห็นได้จากช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เป็นอีกช่วงเวลาที่ยากลำบากของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายราย เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่องมาตลอดในช่วงก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องของหนี้ครัวเรือน ที่เข้ามาเป็นปัจจัยกดดันกำลังซื้อของคนไทย ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการอีกหลายราย ยังคงมีการบริหารจัดการที่ดี โดยที่
– บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,315 ล้านบาท และรายได้ 10,170 ล้านบาท
– บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,008 ล้านบาท และรายได้ 7,968 ล้านบาท
– บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,231 ล้านบาท และรายได้ 7,804 ล้านบาท
– บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 614 ล้านบาท และรายได้ 4,674 ล้านบาท
– บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 65 ล้านบาท และรายได้ 4,171 ล้านบาท
– บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 183 ล้านบาท และรายได้ 4,024 ล้านบาท
– บริษัท เฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 159 ล้านบาท และรายได้ 3,524 ล้านบาท
– บริษัท ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 571 ล้านบาท และรายได้ 3,213 ล้านบาท
– บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 490 ล้านบาท และรายได้ 1,797 ล้านบาท
– บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 79 ล้านบาท และรายได้ 1,787 ล้านบาท