เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่รัฐสภา กลุ่มทะลุฟ้า นำโดย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ. นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธาน กมธ. นายนิกร จำนง เลขานุการ กมธ. เป็นตัวแทนรับยื่นข้อเรียกร้อง เพื่อขอให้ กมธ.นิรโทษกรรม พิจารณานิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำความผิดตามมาตรา 112 เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยกรณี น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ที่เสียชีวิตในระหว่างถูกคุมขังเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา

โดย น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า จากกรณีของ บุ้ง ทะลุวัง ที่เสียชีวิตนั้น ตนเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นผู้เห็นต่าง และไม่ได้ละเมิดสิทธิร่างกาย หรือทำร้ายร่างกายผู้อื่น ก็ไม่ควรต้องถูกคุมขัง ขอย้ำว่าคดีอื่นๆ ที่ถูกคุมอยู่ในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นคดีมาตรา 112 รวมถึงคดีมูลเหตุทางการเมืองอื่นๆ คดีเหล่านี้ไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว จึงขอเรียกร้องให้คืนสิทธิการประกันตัวให้ผู้ต้องขังทุกคน จะต้องไม่มีใครเดินเข้าเรือนจำด้วยการถูกดำเนินคดีทางการเมืองอีก เราจึงต้องการให้ กมธ. พิจารณาอย่างจริงจัง ถึงความสูญเสียที่เพิ่งเกิดขึ้น คือช่วยพิจารณาเรื่องมาตรา 112 ในการนิรโทษกรรมอย่างจริงจังได้หรือไม่ ซึ่งใน กมธ. ช่วงแรก มีความเป็นไปได้ในการตั้งคณะอนุ กมธ. ขึ้นมาพิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่สุดท้ายไม่เกิดขึ้น ดังนั้นขอให้ กมธ. พิจารณาซ้ำอีกครั้ง

“หาก กมธ. จะไม่รวมมาตรา 112 เข้าไปในการนิรโทษกรรม จะต้องอธิบายเหตุผลให้ประชาชนรับฟังอย่างชัดเจน ว่าคืออะไร เหตุมาตรา 112 ไม่ใช่คดีทางการเมือง และเป็นคดีที่มีปัญหา ในเมื่อคนที่ไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว เรียกร้องจนเกิดความสูญเสียชีวิตไปแล้ว จึงอยากถามว่าอย่างนี้ไม่มีปัญหาตรงไหน” น.ส.ภัสราวลี กล่าว

น.ส.ภัสราวลี กล่าวต่อว่า ส่วนกระบวนการการดำเนินคดีทางการเมืองต่างๆ ไม่ว่าอยู่ในขั้นใดก็ตาม เมื่อเห็นปัญหาของคดีความทางการเมืองต่างๆ แล้ว เพื่อยุติการสร้างความเสียหายในวงกว้าง ขอให้ชะลอคดีความก่อนได้ โดยหยุดพักดำเนินการในกระบวนการต่างๆ ไม่ป้อนคนเข้าเรือนจำ ให้คนเข้าไปเสี่ยงถูกคุมขังจนเสียชีวิตได้หรือไม่ และปล่อยคนที่อยู่ในเรือนจำขณะนี้ออกมาได้หรือไม่ ให้พวกเขาได้รับสิทธิการประกันตัวเหมือนกับคดีอื่นๆ อย่าทำให้คดีการเมืองเป็นคดียกเว้นที่จะได้รับสิทธิการประกันตัว เพื่อให้เขาออกมาต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ จึงอยากให้ กมธ. พิจารณาอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 21 พ.ค. นี้ ทางกลุ่มฯ จะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามความคืบหน้าในสิ่งที่ยื่นต่อรัฐบาลว่าได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว

ด้านประธาน กมธ.นิรโทษกรรม กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียของบุคคล ที่ได้ต่อสู้ทางการเมือง สิ่งที่ น.ส.ภัสราวลี กล่าวไปนั้น เป็นสิ่งที่ได้เสนอต่อ กมธ. อยู่แล้ว เนื่องจาก น.ส.ภัสราวลี ก็อยู่ใน กมธ. ด้วย ดังนั้นข้อเสนอดังกล่าวยังไม่เป็นที่ยุติ เรายังไม่มีมติว่าจะปฏิเสธ หรือไม่รับข้อเสนอ เพียงแต่หลายเรื่องเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ที่เชื่อมโยงไปหลายหน่วยงาน แต่ไม่ใช่ผู้ที่บริหารกระบวนการยุติธรรมโดยตรง เรื่องจะเกิดขึ้นได้จะต้องเป็นนโยบายที่สำคัญ ที่จะต้องเชิญฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาพูดคุย หาก กมธ. ทำงานโดยที่หน่วยงานอื่นไม่รับรู้ เช่น ศาลไม่ได้รับรู้รับทราบก็จะยึดถือแต่กฎหมาย ดังนั้นจึงจะต้องเป็นนโยบายในภาพรวม ท้ายที่สุดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมาร่วมหารือเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ ลำพัง กมธ. ทำอะไรไปโดยที่ฝ่ายอื่นไม่ให้ความร่วมมือ ก็ไม่สำเร็จ ก็ขอเรียนไว้ให้รับรู้

นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการนิรโทษกรรมในคดีมาตรา 112 ได้ถูกบรรจุใน กมธ. ไม่ได้ตัดออกไป เพียงแต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรึกษาหารือถึงข้อดีข้อเสีย เราเห็นใจเพราะเรื่องเหล่านี้มีความสำคัญ เราจะพยายามทำเรื่องนี้ให้ได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด ตนทราบดีว่า ประมวลกฎหมายวิอาญาให้อำนาจศาลกว้างขวางกว่ารัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญจะพูดถึงหลักการปล่อยตัวชั่วคราว คือการไม่ให้ประกันควรมีข้อยกเว้น การจะไม่ให้ประกันมีประการเดียว คือเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี แต่ปัจจุบันนำเหตุอื่นหลายๆ เหตุรวมถึงผลของคดี ทำให้เป็นปัญหา ตนคิดว่า กระบวนการตรงนี้ต้องสังคายนา โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญให้ชัดเจน ทั้งนี้ กมธ. จะรับข้อเสนอ ถึงแม้ข้อเสนอนี้จะมีมาแล้ว เพื่อพิจารณาอย่างจริงจังเต็มที่

ขณะที่นายนิกร กล่าวว่า กมธ. ชุดนี้ทำหน้าที่เพียงแค่ศึกษา ไม่ใช่ยกร่างฯ เมื่อเราเสนอรายงานต่อสภาไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะเอาด้วยหรือไม่ ดังนั้นก็ต้องไปแก้ที่รัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า กมธ. จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่.