ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพระบรมธาตุ ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ นายสหวิช อภิชัยวิศรุตกุล รอง ผวจ.อุตรดิตถ์ เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานประเพณีอัฏฐมีบูชา จังหวัดอุตรดิตถ์ ประจำปี 2567 ครั้งที่ 69 ระหว่างวันที่ 22-30 พ.ค. (วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ถึงวันแรม 8 ค่ำเดือน 6) ตามโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์, วัดพระบรมธาตุ, อบจ.อุตรดิตถ์, ททท.สำนักงานแพร่-อุตรดิตถ์, เทศบาลตำบลทุ่งยั้ง และส่วนราชการ/หน่วยงานทุกภาคส่วนในจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นเจ้าภาพร่วมกัน เพื่อน้อมรำลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สืบต่ออายุพระพุทธศาสนา และสืบสานประเพณีอัฏฐมีบูชาให้คงอยู่ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมจิตสำนึกที่ดีของพุทธศาสนิกชนต่อพระพุทธศาสนา ซึ่งวันอัฏฐมีบูชา 30 พ.ค. เป็นวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระจำลองขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ภายในงาน เชิญร่วมทอผ้าห่มพระบรมธาตุ ร่วมสรงน้ำพระบรมธาตุด้วยน้ำสรงพระราชทาน การเวียนเทียนวิสาขะปูรณะมี ฟังเทศน์ ปฏิบัติธรรม และชม ชิม ช้อป เลือกซื้อสินค้าพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์ของฝากของที่ระลึก ในตลาดวิถีชุมชนคนทุ่งยั้ง พร้อมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม การสาธิตอาหารและมรดกภูมิปัญญา การร้อยพวงดอกไม้ การร่วมบุญร่วมกุศลในพิธีห่มผ้าพระบรมธาตุ การถวายสลากภัต โดยมีไฮไลต์สำคัญในพิธีเปิดงานในวันที่ 22 พ.ค. วันวิสาขบูชา ชมการรำถวายพระบรมธาตุ 999 คน และเวียนเทียนรอบพระบรมธาตุร่วมกัน พร้อมกับชมแสงสีเสียงมินิ “ตำนานเมืองทุ่งยั้งและเวียงเจ้าเงาะ” และในวันสุดท้ายของงานวันอัฏฐมีบูชา 30 พ.ค. เชิญชมขบวนแห่ทางศิลปะวัฒนธรรม ขบวนเครื่องสักการะและขบวนเทิดพระเกียรติ จาก 9 อำเภอ ร่วมสรงน้ำและห่มผ้าพระบรมธาตุ และชมการแสดง แสง สี เสียง “พิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพพระพุทธเจ้าจำลอง”

นายสุรพันธ์ กล่าวว่า งานประเพณีอัฏฐมีบูชา ถือเป็นงานบุญที่สำคัญมากอีกงานหนึ่งของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่มีการสืบสานรักษา จัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนานเป็นครั้งที่ 69 เพื่อน้อมรำลึกถึงองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า และสืบสานประเพณีอัฏฐมีบูชาให้คงอยู่ ซึ่งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ประเพณีที่ดีงามนี้ไว้ให้คงอยู่คู่กับชุมชน และพยายามผลักดัน ยกระดับ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ เพื่อให้เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ มีการกำหนดรูปแบบกิจกรรมร่วมกับชุมชน เพื่อรักษาสิ่งที่ดีงามไว้ และเพิ่มเติมส่วนที่จะช่วยพัฒนา ต่อยอด ให้ประเพณีมีความยิ่งใหญ่ ในปีนี้ จังหวัดอุตรดิตถ์ได้รับพระราชทานน้ำสรงพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี อัญเชิญมาสรงพระบรมธาตุทุ่งยั้ง และได้รับพระราชทานพระราชานุญาตเชิญอักษรพระนามาภิไธย “ส.ธ.” มาประดับที่ผ้าห่มพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ตลอดระยะเวลาการจัดงาน 9 วัน 9 คืน ทางวัดได้จัดสร้างพระพุทธสรีระจำลองของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยชาวบ้านทุ่งยั้งที่มีความรู้ในการจักสานพระพุทธเจ้าจำลอง จะร่วมกันสานองค์พระ ด้วยไม้ไผ่เหลาเป็นเส้น จำนวน 80 เส้น ตามอายุพระพุทธเจ้า ประทับในท่าสีหไสยาสน์ ขนาด 3.80 เมตร นุ่งห่มด้วยจีวร ประดิษฐานในโลงแก้วที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ณ ศาลาการเปรียญวัดพระบรมธาตุ เพื่อสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี ให้พุทธศาสนิกชนได้มาร่วมงานสวดพระอภิธรรม รำลึกถึงพระพุทธคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และจัดสร้างเมรุมาศจำลอง โดยการใช้ไม้ไผ่ 6 ต้น นำมาเป็นโครงสร้าง ประดับตกแต่งด้วยกระดาษฉลุลายสวยงาม

นายสหวิช ได้กล่าวประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยว พุทธศาสนิกชน และผู้สนใจ เข้ามาร่วมเที่ยวงานประเพณีอัฏฐมีบูชาดังกล่าวได้ ระหว่างวันที่ 22-30 พ.ค. 2567 ซึ่งถือเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยในช่วงดังกล่าว ตรงกับฤดูกาลทุเรียนหลง-หลินลับแล กำลังออกพอดี จึงเชิญชวนทุกท่านมาอิ่มบุญ อิ่มใจ สัมผัสบรรยากาศวิถีพุทธ และอิ่มกายกับทุเรียนหลง-หลินลับแล และอาหารพื้นถิ่นของกินต้องห้ามพลาด ของอุตรดิตถ์มากมาย