เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนาทชัย เถื่อนทิม อาจารย์วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูล นายกำพลศักดิ์ สัสดี นักสำรวจถ้ำ นายราเชนทร์ เบ็ญโกบ ผู้นำชุมชนควนกาหลง นายไพรัช สุขงาม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยว (สำนักงาน ททท.สตูล) และอาสากู้ภัยป่าภูเขา (แห่งวีรบุรุษถ้ำหลวง) ร่วมกันบุกเข้าไปสำรวจถ้ำป่าเขาค้อม หมู่ 10 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล หลังพบถํ้า “สุสานโครงกระดูกมนุษย์ยุคหิน” และเครื่องใช้โบราณ คาดอายุเกิน 5,000 ปี

นายกำพลศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้ขออนุญาตเจ้าของพื้นที่เข้าสำรวจหลายครั้ง และการสำรวจพบว่า เขาค้อมเป็นเขาลูกใหญ่มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนผสมป่าดงดิบ มีถ้ำที่เชิงภูเขา ซึ่งชาวบ้านต่างเรียกกันว่า “ถ้ำเขาค้อม” การสำรวจในเบื้องต้นพบว่า เป็นถ้ำระบบแห้ง ประมาณ 500 เมตร และมีความลึกเข้าไปกว่า 1 กิโลเมตร และเป็นถ้ำมีลำธาร

“ยังไม่รู้ว่ามีความลึกแค่ไหน และที่โซนปากถ้ำ มีร่องรอยการอาศัยยุคมนุษย์หิน พบเครื่องมือเครื่องใช้ในยุคมนุษย์หิน แถมยังเจอชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ ไม่น้อยรวมกว่า 10 ชิ้น และพบชิ้นส่วนฟันกรามล่าง ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ มีเปลือกหอยจำนวนมากที่ทับถมปะปนกันอยู่ เชื่อว่าตรงจุดที่พบนี้น่าจะเป็นสุสาน เพราะว่ายิ่งขุดดูยิ่งพบเศษชิ้นส่วนมนุษย์มากขึ้น คาดว่ามีไม่น้อยกว่า 10 ชีวิต” นายกำพลศักดิ์ กล่าว

นายกำพลศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่นำร่างมาฝังตรงนี้ หลังจากที่ทางวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูล มาร่วมสังเกตการณ์และร่วมดูหลักฐานที่พบเจอครั้งนี้ ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้แจ้งให้ทางกรมศิลปากรทราบแล้ว เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ เพื่อเป็นหลักฐานทางวิชาการอีกครั้งหนึ่ง

ซึ่งร่องรอยการพบชิ้นส่วนทั้งหมดนี้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวอย่างไปเปรียบเทียบทางโบราณคดี เพื่อให้มีการยืนยันว่าใกล้เคียงกับมนุษย์ยุคหิน เป็นฟันกรามของมนุษย์ยุคหินจริงๆ อายุน่าจะเกิน 5,000-10,000 ปี หลังจากนี้ ทางวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูล คงจะมีการประสานไปทางกรมศิลปากร เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่กระบวนการขุดค้นการดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มรูปแบบ

หลังจากนี้ ทางวิทยาลัยและเทคโนโลยีสตูล จะมีการกันพื้นที่ เพื่อไม่ให้มีผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาเหยียบย่ำ หรือขุดทำลาย นักสำรวจถ้ำ และอาสากู้ภัยป่าภูเขา (วีรบุรุษถ้ำหลวง) มีการระบุว่า หลังขออนุญาตเจ้าของพื้นที่เข้าสำรวจหลายครั้ง สิ่งที่มุ่งหวังอยากให้เกิด คือ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางโบราณคดี และประวัติศาสตร์ธรณีวิทยา เพราะว่ามีถ้ำระบบน้ำ ที่สามารถที่จะเรียนรู้ทางธรณีวิทยาได้ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พิเศษ สำหรับผู้ที่สนใจทางด้านนี้โดยเฉพาะ พร้อมฝากชาวบ้านหรือคนในชุมชน ที่เดินป่าเดินเขา ถ้าหากว่าประชาชนพบเจออะไรก็ตามที่มีลักษณะพิเศษเกี่ยวกับกระดูกคล้ายโครงกระดูกมนุษย์ หรืออะไรก็ตาม ขอให้รีบแจ้งกู้ภัยฯ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ลงไปสำรวจตรวจสอบว่า เป็นกระดูกของใคร เพื่อที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสำรวจดูต่อไป.