สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนูเมอา ดินแดนนิวแคลิโดเนีย เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เยือนกรุงนูเมอา เมืองหลวงของดินแดนนิวแคลิโดเนีย โดยมีการพบหารือกับผู้นำทางการเมืองและผู้นำทางธุรกิจในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์จลาจลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน

FRANCE 24 English


ทั้งนี้ ชนวนเหตุของความรุนแรง มาจากความไม่พอใจของชาวคานัค ที่มีต่อมติของสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศส ซึ่งปรับเปลี่ยนกฎการลงคะแนนเสียงของชาวนิวแคลิโดเนีย ซึ่งชาวคานัคมองว่า เป็นการ “ลดทอนสิทธิ” ของกลุ่มชาติพันธุ์ เนื่องจากจะมีการมอบสิทธิการเลือกตั้ง ให้กับผู้ที่มีสถานะพักอาศัยถาวร ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีเชื้อสายกลุ่มชาติพันธุ์

กลุ่มชาติพันธุ์คานัครวมตัวประท้วง ที่กรุงนูเมอา ระหว่างประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เยือนนิวแคลิโดเนีย


ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวว่า ต้องการให้สถานการณ์ความไม่สงบของนิวแคลิโดเนีย กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด แต่กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่เดินทางมาจากกรุงปารีส จะยังคงประจำการอยู่ที่นี่ “นานอีกระยะหนึ่ง” ด้านนายหลุยส์ เลอ ฟรองซ์ ข้าหลวงฝรั่งเศสประจำนิวแคลิโดเนีย กล่าวว่า สถานการณ์ภายในนิวแคลิโดเนียมีความสงบมากขึ้น หลังฝรั่งเศสเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจากส่วนกลาง เข้ามาปราบปรามการประท้วงในพื้นที่


อนึ่ง การเยือนนิวแคลิโดเนียของมาครงครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน ก.ค. 2566 โดยการเยือนในเวลานั้น เผชิญกับการบอยคอตอย่างหนักจากตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์คานัค บ่งชี้ความสัมพันธ์ที่ยังคงตึงเครียด ระหว่างรัฐบาลในกรุงปารีส กับดินแดนโพ้นทะเลซึ่งยังคงอยู่ภายใต้อาณานิคม.

เครดิตภาพ : AFP