สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ว่านางมาเกรเธอ เวสทาเกอร์ ข้าหลวงด้านการแข่งขันทางการค้าของคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) แถลงว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ปรับบริษัทมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล หนึ่งในผู้ผลิตขนมและอาหารว่างรายใหญ่ระดับโลกของสหรัฐ เป็นเงินทั้งสิ้น 337.5 ล้านยูโร (ราว 13,369.37 ล้านบาท) จากการละเมิดกฎหมายการผูกขาดการค้าของสหภาพ
ทั้งนี้ อีซีให้เหตุผลประกอบการปรับมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล เนื่องจากบริษัทใช้นโยบายจำกัดการขายช็อกโกแลต บิสกิต และผลิตภัณฑ์กาแฟ ข้ามพรมแดนระหว่าง 27 ประเทศซึ่งเป็นสมาชิกอียู ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ซึ่งต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองต้องการ ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อของหลายประเทศ ที่ยังอยู่ในระดับสูง
We've fined Mondelēz for hindering the cross-border trade of chocolate, biscuits and coffee products between EU countries, in breach of EU competition rules.
— European Commission (@EU_Commission) May 23, 2024
These practices allowed Mondelēz to charge more for its products to the detriment of ???????? consumers.
More info ↓
รายงานของอีซีระบุต่อไป มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ดำเนินนโยบายดังกล่าว ระหว่างปี 2555-2562 โดยรวมถึงการจำกัดศักยภาพของผู้ค้าส่ง ในการซื้อสินค้าเพื่อนำไปขายต่อ และใช้มาตรการกดดันให้ผู้ค้าส่งขายสินค้าข้ามพรมแดนในราคาซึ่งสูงกว่าที่จำหน่ายในตลาดท้องถิ่น
ขณะที่ระหว่างปี 2558-2562 มอนเดลีซปฏิเสธส่งสินค้าให้กับซัพพลายเออร์ในเยอรมนี ซึ่งเป็นศูนย์กระจายสินค้าให้กับออสเตรีย เบลเยียม บัลแกเรีย และโรมาเนีย ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายตามกลุ่มประเทศเหล่านั้น มีราคาแพงกว่าอีกหลายประเทศ
บริษัทมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ก่อตั้งเมื่อเดือน ธ.ค. 2466 ที่เมืองชิคาโก ในรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐ เดิมมีชื่อว่า คราฟท์ ฟู้ด เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์คุกกี้ บิสกิต และขนมมากมาย รวมถึง โอรีโอ (Oreo) และ ทอเบลอโรน (Toblerone).
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES