ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง ยังคงเกาะติดการแก้ไขปัญหาก่อสร้าง 8 โครงการ 7 ชั่วโคตรของกรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ จ.กาฬสินธุ์ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้รับฟังความต้องการของชาวบ้านส่วนใหญ่ ที่อยากให้ทางกรมโธยาฯ ประกาศยกเลิกอีก 2 โครงการที่เหลือเป็นลายลักษณ์อักษร และชัดเจนในเรื่องขึ้นแบล็กลิสต์ 2 ผู้รับเหมาขาใหญ่ หมดสิทธิประมูลงาน รวมทั้งดำเนินการทางคดีทางการปกครองให้เร็วที่สุด หวั่นเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เพราะทราบว่า ล่าสุดยังไปได้งานของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ที่จะมาลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ อีก 2 โครงการงบ 34 ล้านบาท ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ เดินหน้าตรวจสอบ 6 โครงการที่ยกเลิกสัญญาละเอียดยิบ ทั้งในส่วนผลกระทบต่อชาวบ้านและชุมชน จากสาเหตุผู้รับเหมาทิ้งงาน ด้านธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ชง 4 องค์กรอิสระ “ป.ป.ช.-ป.ป.ท.-สตง. และดีเอสไอ” ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินโครงการและความคุ้มค่า เพราะมีการเบิกจ่ายเงินงวดงานไปแล้วกว่า 250 ล้านบาท นั้น
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง ได้รับการเปิดเผยจาก นายปรัชญา ดวงจอมดี นายช่างอาวุโส สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ ว่า ตามที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดก่อสร้าง ที่กรมโยธาฯ ยกเลิกสัญญา 6 โครงการ เพื่อสรุปรายงานส่งผู้ว่าฯ และกรมโยธาฯ ต่อไปนั้น การตรวจสอบในพื้นที่เป็นไปตามคำสั่งการของ นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ ทำงานแบบคู่ขนาน เพื่อรอให้คณะกรรมการจากกรมโยธาฯ เข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ ทั้ง 6 โครงการที่ยกเลิกสัญญาพบว่าผลการตรวจสอบมีการเบิกจ่ายไปแล้ว ประกอบด้วย (1) โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาว บริเวณซอยน้ำทิพย์เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 937 เมตร งบ 59,350,000 บาท ผู้รับจ้างเบิกจ่าย 10,336,500 บาท (2) โครงการเขื่อนตลิ่งริมลำน้ำปาว หน้าวัดใต้โพธิ์ค้ำ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 1,141 เมตร งบประมาณ 108,800,000 บาท ผู้รับจ้างเบิกจ่าย 64,544,000 บาท (3) โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี วัดใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย ความยาว 423 เมตร งบประมาณ 59,306,000 บาท ผู้รับจ้างเบิกจ่าย 19,775,900 บาท (4) โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี (ระยะที่ 2) วัดลำชีศรีวนาราม ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ความยาว 385 เมตร งบ 59,270,000 บาท ผู้รับจ้างเบิกจ่าย 33,090,500 บาท (5) โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำน้ำพาน หลังเทศบาลตำบลลำพาน บ้านวังยูง อ.เมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 526 เมตร งบ 44,490,000 บาท ผู้รับจ้างเบิกจ่าย 13,737,500 บาท และ (6) โครงการระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมเมือง งบ 148,200,000 บาท ผู้รับจ้างเบิกจ่าย 80,166,000 บาท ซึ่งทางสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ พบว่ามีปัญหากระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมด ในส่วนที่ส่งผลกระทบกับชาวบ้าน ชุมชน และแนวทางการเยียวยาชาวบ้าน เสนอผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อส่งต่อกรมโยธาฯ ต่อไป ทั้งนี้ในส่วนอีก 2 โครงการที่ยังไม่ยกเลิกนั้น คือ โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งแก่งดอนกลาง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ งบ 39,540,000 บาท ความยาว 583 เมตร ผู้รับจ้างเบิกจ่าย 11,099,000 บาท และเขื่อนป้องกันตลิ่งบ้านหนองหวาย-หนองคล้า ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ความยาว 300 เมตร งบ 39,525,000 บาท ผู้รับจ้างเบิกจ่าย 20,169,000 บาท ที่จะหมดสัญญาวันที่ 8 ก.ค. 67 พร้อมกันนั้น ยังอยู่ในระหว่างพิจารณายกเลิกสัญญาของกรมโยธาฯ

ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง รายงานว่า สภาพหน้างานในแต่ละจุดพบมีความเสียหายจากฝนที่ตกลงมาทุกแห่งมีการพังทลายของหน้าดิน ในชุมชนเมืองกาฬสินธุ์ มีน้ำขังตามบล็อกหน้างานก่อสร้าง เบื้องต้นได้รับคำยืนยันจาก สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองกาฬสินธุ์ ว่าในวันพรุ่งนี้ 27 พ.ค. 67 เวลา 10.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วย โยธาฯ-ทางหลวง-อบจ. จะระดมเครื่องจักรเข้ามาขุดลอกทางระบายน้ำภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เริ่มต้นที่ถนนพร้อมพรรณ ระยะทาง 700 เมตร เพื่อเปิดทางน้ำป้องกันปัญหาฝนที่ตกลงมาจากปรากฏการณ์ ลานีญา ที่ในขณะนี้มีฝนตกลงมาทุกวัน

ด้าน นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคมในการต่อต้านการทุจริต ป.ป.ท.เขต 4 ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ ธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ (กธจ.) กล่าวว่า ตามที่ได้ลงพื้นที่สอดส่องตรวจสอบ ร่วมกับ ป.ป.ท.เขต 4 ขอนแก่น ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ รวมทั้งอธิบดีกรมโยธาฯ และผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้ง 8 โครงการของกรมโยธาฯ ทั้งนี้ จากข้อมูลตามเอกสารของสำนักงานโยธาฯ จ.กาฬสินธุ์ ที่สรุปผลการติดตามแก้ปัญหางานก่อสร้าง เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 67 ที่ผ่านมานั้น คณะ กธจ.กาฬสินธุ์ ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินค่าจ้างตามงวดงาน ที่พบว่ามีการเบิกจ่ายในภาพรวมเป็นจำนวนมากกว่า 250 ล้านบาท การสอดส่องยังพบว่ารายชื่อกรรมการตรวจรับงานส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง ซึ่งเครือข่ายฯ-กกธ. มีข้อมูลที่เตรียมนำเสนอทั้งหมด แต่สิ่งที่คาดหวังคือผลสัมฤทธิ์ของการแก้ไขปัญหาคือการเร่งจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่เข้ามาทำงาน กับการยุติปัญหาของผู้รับจ้างทิ้งงาน ทั้ง 2 หจก. ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ว่าจะมีการประกาศเป็นผู้รับเหมาทิ้งงานเมื่อไหร่ เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้น กรมบัญชีกลางฯ ควรที่จะเร่งพิจารณาประกาศเพื่อยุติปัญหาซ้ำซากที่อาจจะเกิดขึ้นกับหน่วยงานอื่น อีกทั้งจากการเฝ้าติดตามปัญหาในแต่ละสัปดาห์ก็เห็นมีการประกาศผู้รับจ้างทิ้งงานแต่ยังไม่เห็น 2 หจก.นี้ จึงไม่อยากจะคิดว่า 2 หจก.เส้นสายใหญ่โต จนทำให้มีการประวิงเวลาเพื่อหาทางช่วยเหลือกันอีก

“ตนเชื่อมั่นในผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้ทำดีที่สุดแล้วให้คนกาฬสินธุ์ กับ กระบวนการพิจารณาความยุติธรรมของ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ที่จะไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของใคร โดยเฉพาะกลุ่มคนที่สร้างความเสียหายให้กับแผ่นดิน ในด้านการตรวจสอบขององค์กรอิสระทั้ง 4 หน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช.-ป.ป.ท.-สตง.-ดีเอสไอ ก็เชื่อว่าปัญหา “ก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร” องค์กรที่กล่าวถึงได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด และในอนาคตคงจะมีการเข้าตรวจสอบเต็มรูปแบบเร็วๆ นี้” นายชาญยุทธ กล่าว.