สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศสเปนออกแถลงการณ์ เมื่อวันจันทร์ ว่านับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. นี้ สถานกงสุลใหญ่สเปนประจำเมืองเยรูซาเลม จะสามารถให้บริการได้เฉพาะกับประชาชนซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ในเมืองแห่งนี้เท่านั้น ไม่สามารถให้บริการกับพลเมืองปาเลสไตน์ได้อีกต่อไป
This morning, I instructed the @IsraelMFA to send a diplomatic note to the Spanish Embassy in Israel, prohibiting the Spanish consulate in Jerusalem from conducting consular activities or providing consular services to residents of the Palestinian Authority.
— ישראל כ”ץ Israel Katz (@Israel_katz) May 27, 2024
We will not remain… pic.twitter.com/Ewx9Wwux7L
ขณะที่นายอิสราเอล คัตซ์ รมว.การต่างประเทศอิสราเอล กล่าวว่า มาตรการดังกล่าว เป็นการลงโทษในเบื้องต้น ต่อการที่สเปนเตรียมรับรองอธิปไตยของปาเลสไตน์ ภายในวันที่ 28 พ.ค. นี้ ร่วมกับนอร์เวย์และไอร์แลนด์ และอิสราเอลจะไม่มีทางเพิกเฉยต่อ “อันตราย” ที่อาจเกิดขึ้นกับอธิปไตยและความปลอดภัยของอิสราเอล
นอกจากนี้ รัฐบาลอิสราเอลแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง ต่อการที่นางโยลันดา ดิอาซ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.แรงงานสเปน กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสเปนกับปาเลสไตน์ จะไม่ยุติเพียงการรับรองอย่างเป็นทางการ แต่ปาเลสไตน์ “จะต้องเป็นอิสระ” ในอนาคต “ไม่ว่าจะทางบก ทางทะเล หรือทางอากาศ” โดยคัตซ์กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับประเทศยุโรปตะะวันตกทั้งสามแห่ง “จะได้รับผลกระทบ” จากเรื่องนี้.
เครดิตภาพ : AFP