เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 พ.ค. 67 ที่ห้องประชุมราชปนัดดาสิรินธร อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 1 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการแถลงข่าวโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 (Walk Run Bike Fighting STROKE) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นำโดย ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ศ.ดร.นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผอ.โรงพยาบาลศิริราช รศ.ดร.นพ.ยงชัย นิละนนท์ ประธานศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช และภาคีเครือข่าย อาทิ คุณพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคม รวมถึงผู้บริหาร มท. อาทิ นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายสุรพล เจริญภูมิ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นเกียรติในงาน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญในด้านการเสริมสร้างสุขภาพอนามัยที่ดีของพี่น้องประชาชน ซึ่งโครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 ถือเป็นหนึ่งในภารกิจ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ของกระทรวงมหาดไทย และเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ประชาชนยึดหลักการดูแลสุขภาพอนามัย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นดั่งแสงนำใจและทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยในการรักษาสุขภาพและออกกำลังกาย อีกทั้งพระองค์ท่านยังมีพระราชกรณียกิจนานานัปการในการส่งเสริมและสนับสนุนด้านการแพทย์เพื่อดูแลพสกนิกรชาวไทย ทั้งทรงพระราชทานรถต้นแบบรักษาอัมพาตเคลื่อนที่สำหรับนำไปใช้ประโยชน์ สนับสนุนเครื่องมือแพทย์ ที่จะส่งผลทำให้คนในประเทศมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อันจะนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขของประชาชน
“เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กระทรวงมหาดไทยนำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกาย ควบคู่กับการให้ความรู้โรคหลอดเลือดสมอง และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของทั้ง 2 พระองค์ โดยจะมีกิจกรรมจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 พร้อมกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนมาร่วมกันแสดงพลังแสดงความจงรักภักดีน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการร่วมกิจกรรมออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ ห่างไกลโรคหลอดเลือดสมอง ในโครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนได้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีร่างกายและจิตใจที่ดี อันจะเป็นรากฐานในการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
ด้านคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า โครงการฯ ในปีนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงเป็นแบบอย่างให้กับประชาชนชาวไทยในการรักษาสุขภาพและการออกกำลังกาย รวมทั้งเสริมสร้างความตระหนักรู้เรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง ตลอดจนให้ความรู้เรื่องโรคหลอดเลือดสมอง โดยให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศทุกเพศทุกวัย สามารถร่วมเป็นเครือภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็งในการดูแลสุขภาพในชุมชน และการรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายอย่างง่ายและเหมาะสม ได้แก่ การเดิน การวิ่ง และการปั่นจักรยาน
ท้ั้งนี้ เนื่องด้วยเป็นปีมหามงคล โครงการฯ จึงไม่มีการจัดเก็บค่าสมัครในการจัดกิจกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งมอบเสื้อออกกำลังกายจำนวน 400,000 ตัว ให้คนไทยทั้งประเทศได้สวมเสื้อรวมพลังแสดงความจงรักภักดีและร่วมกิจกรรมออกกำลังกายในธีมคนไทยสมองดี “HEALTHY THAIS, HEALTHY BRAINS” โดยมุ่งหวังให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย ซึ่งช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองหรือสโตกได้ถึง 90% ซึ่งความสำคัญที่จะทำให้โครงการในปีนี้ประสบความสำเร็จจากความร่วมแรงร่วมใจจากทุกหน่วยงาน และได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนกว่า 40 หน่วยงาน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จึงขอขอบคุณความตั้งใจและมุ่งมั่นและน้ำใจของทุกฝ่ายที่ร่วมกันจัดงานโครงการในครั้งนี้ และขอเชิญชวนทุกท่านตลอดจนประชาชนคนไทยร่วมกิจกรรมเดินวิ่งผ่านป้องกันอัมพาต ในวันเสาร์ที่ 2 พ.ย. 67 โดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ.
