เมื่อวันที่ 28 พ.ค. องค์กรโพรเทคชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (พีไอ)  รายงานว่าเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา นักปกป้องสิทธิมนุษยชน กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด กว่า 100 คน ได้นัดรวมตัวกันที่ลานย่าโม จ.นครราชสีมา เพื่อชุมนุมเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีคำสั่งอย่างเป็นรูปธรรมในการปิดเหมืองแร่โปแตชในพื้นที่ ภายใต้ชื่องาน มหกรรมพี่น้องด่านขุนทดนอนศาลากลางจนกว่าจะได้รับข้อตกลง โดยได้มีการแสดงละครสะท้อนปัญหาเหมืองเรื่อง “ต้านภัยไทยกาลี” ต่อหน้าย่าโม  ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังศาลากลาง จ.นครราชสีมา

นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนและที่ปรึกษากลุ่มฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสิ่งที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเมืองแร่ (กพร.) ทำคือการบิดเบือนข้อเท็จจริง  เพราะไม่ได้เชิญกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ ไปร่วมในการรับฟังปัญหาข้อเท็จจริง  สิ่งที่เขาพยายามทำคือการหลงลืมเรา ทำให้เราไม่มีตัวตน เป็นการดูถูกเหยียดหยามเรา  ดังนั้นสาระสำคัญของข้อตกลงคือต้องมาฟังเรา ไม่ใช่ไปฟังพวกเชียร์เหมือง หรือหน่วยงานราชการ ผู้ใหญ่บ้านกำนันที่รวมหัวกันกลั่นแกล้งและข่มขู่พวกเรามาโดยตลอด  ดังนั้นเราจะไม่คุยกับใครทั้งสิ้นนอกจากผู้ว่าฯ  จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าฯ จ.นครราชสีมา และทีมงานได้ลงมาเจรจากับกลุ่มนักปกป้องสิทธิมนุษยชนฯ และพร้อมเรียกประชุมหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในช่วงเย็น จนได้ข้อสรุปในการลงนามข้อตกลงในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและประชาชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่โปแตช ในพื้นที่ ต.หนองไทร ต.หนองบัวตะเกียด และ ต.โนนเมืองพัฒนา  อ.ด่านขุนทด 5 ข้อ  ประกอบด้วย 1.ให้มีการตรวจสอบผลกระทบที่เกิดขึ้นที่ ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะกรณีอุโมงค์แนวเอียงที่ใช้ขุดเจาะแร่โปแตชและเกลือหิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบ และชี้แจงต่อประชาชนโดยเร็ว เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นในพื้นที่มีความรุนแรงและยังเกิดขึ้นทุกวัน 2. ให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ยุติการดำเนินการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงแผนผังโครงการทำเหมืองโดยเร่งด่วน

3.ให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ยุติการดำเนินกิจการแต่งแร่ด้วยโรงงานผลิตเกลือบริสุทธิ์โดยเร่งด่วน เพื่อให้เกิดกระบวนการตรวจสอบผลกระทบที่ครอบคลุมและมีความชัดเจน และเป็นการหยุดยั้งความเสี่ยงทั้งหมดที่จะก่อให้เกิดผลกระทบในพื้นที่เอาไว้ก่อน 4. ให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่จัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ใหม่ทั้งหมดโดยเร่งด่วน 5. ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงผลกระทบและตรวจสอบความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการทำอุโมงค์ใหม่ของบริษัทเหมืองแร่โปแตช

ทั้งนี้ผู้ว่าฯ จ.นครราชสีมา ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ พร้อมนั่งเป็นประธานคณะทำงานดังกล่าว ซึ่งมีสัดส่วนกรรมการจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดฝ่ายละครึ่ง  โดยนายชัยวัฒน์จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเดือดร้อนของชาวบ้านในวันที่ 31 พ.ค.นี้ด้วย ก่อนที่กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดจะประกาศยุติการชุมนุมและเดินทางกลับในช่วงดึก.