สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เดินทางไปยังสถาบันวิทยาศาสตร์กลาโหมแห่งชาติ ในกรุงเปียงยาง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตามรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ)


นายคิมกล่าวว่า การเดินหน้าพัฒนาโครงการดาวเทียมทางทหาร เป็นภาระหน้าที่สำคัญ ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันพัฒนา เพื่อการป้องกันตนเอง และการปกป้องอธิปไตย ตลอดจนความมั่นคงแห่งชาติ จากภัยคุกคามภายนอก ที่เกี่ยวข้องกับการซ้อมรบของสหรัฐ และภัยคุกคามอื่น


ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกล่าวต่อไปว่า แม้การยิงจรวดส่งดาวเทียมครั้งที่เพิ่งผ่านพ้นไปจะยังไม่เป็นตามแผนการ แต่ขอให้ทุกฝ่ายอย่าท้อแท้หรือผิดหวัง และเดินหน้าพัฒนาต่อไปจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น


ทั้งนี้ เกาหลีเหนือส่งจรวดปล่อยดาวเทียม “มัลลิกย็อง-1-1” ออกจากสถานีปล่อยจรวดโซแฮ ในจังหวัดพย็องอันเหนือ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ทว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ


ความพยายามดังกล่าว เป็นความต้องการส่งดาวเทียมสอดแนมครั้งที่สอง ต่อจากความสำเร็จในการส่ง “มัลลิกย็อง-1” ซึ่งเป็นดาวเทียมสอดแนมทางทหารดวงแรกของประเทศ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ปีที่แล้ว รายงานเบื้องต้นของเกาหลีเหนือระบุว่า จรวดเชื้อเพลิงหรือบูสเตอร์ขั้นที่หนึ่ง ระเบิดกลางอากาศ ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงออกซิเจนเหลวกับน้ำมัน ที่มีการพัฒนาขึ้นใหม่ และตอนนี้กำลังตรวจสอบอย่างละเอียด


อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์ด้วยว่า การใช้เชื้อเพลิงออกซิเจนเหลวกับน้ำมัน “เป็นก้าวใหม่” สำหรับเกาหลีเหนือ และบ่งชี้ว่า น่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการถ่ายทอดจากรัสเซีย


ขณะที่สำนักงานคณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้วิเคราะห์เบื้องต้น ว่าความล้มเหลวน่าจะเกี่ยวข้องกับปัญหาการเผาไหม้เครื่องยนต์ และ “อาจต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน” เพื่อเตรียมความพร้อมกลับมาส่งจรวดปล่อยดาวเทียมดวงนี้อีกครั้ง


นอกจากนี้ ฝ่ายความมั่นคงของเกาหลีใต้เชื่อว่า ความล้มเหลวของการส่งจรวดปลอดดาวเทียมครั้งนี้ น่าจะกระทบกับแผนการของรัฐบาลเปียงยาง ซึ่งประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ว่าต้องการส่งดาวเทียมอย่างน้อย 3 ดวง ภายในปีนี้.

เครดิตภาพ : AFP