“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีคิวลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5 ธ.ค.64- 1 ม.ค.65 โดยช้างศึกพี่ใหญ่ อยู่กลุ่ม A ร่วมกับ “เจ้าภาพ” สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, เมียนมา และทีมจากรอบเพลย์ออฟ (บรูไน หรือติมอร์เลสเต) ทีมนี้มี “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม ขณะที่ สมาคมกีฬาฟุตแห่งประเทศไทย แต่งตั้ง มาโน โพลกิง เป็นเฮดโค้ช และ จเด็จ มีลาภ กับ หนึ่งฤทัย สระทองเวียน เป็นผู้ช่วย

ผู้สื่อข่าวสอบถามความเคลื่อนไหวไปยัง “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ หนึ่งในผู้ช่วยผู้ฝึกสอนช้างศึก ได้รับข้อมูลว่า ตอนนี้ มาโน โพลกิง ยังคงอยู่ที่ประเทศบราซิล กำลังทำวีซ่าเพื่อเดินทางเข้ามายังประเทศไทย มาถึงต้องกักตัวตามมาตรการ แต่ที่ผ่านมา “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม ได้เรียกทีมงานประชุมกันไปแล้วและวางแผนว่าใครต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งในทีมงาน นอกจากตน โค้ชหนึ่งฤทัย ก็จะมี “โค้ชเอ็กซ์” วสพล แก้วผลึก ที่เป็นผู้ช่วยของมาโน่อีกราย

นายจเด็จ กล่าวต่อว่า ตอนนี้จะแบ่งกันไปดูฟอร์มของนักเตะในไทยลีก มีการคุยวางแผนการเล่นที่จะใช้ เพื่อที่จะได้หานักเตะให้เข้ากับระบบของทีมมากที่สุด ขณะที่ทาง มาดามแป้ง กำลังติดต่อกับนักเตะที่เล่นอยู่ต่างประเทศทั้งในยุโรป รวมถึงเจลีก, เคลีก เพื่อดึงมาร่วมทีม ได้นำแผนไปเสนอกับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เพื่อติดต่อ นักเตะเหล่านั้นอาจตามไปสมทบที่ประเทศสิงคโปร์ หลังภารกิจกับต้นสังกัด

เซอร์เด็จ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาที่ทีมกังวลกันก็คือเรื่องเวลาการเตรียมทีม เพราะฟุตบอลไทยลีกแข่งจนถึง 28 พ.ย. แต่นัดแรกซูซูกิ คัพ เริ่มแข่ง 5 ธ.ค. ทำให้ไม่มีเวลาปรับตัวเข้าหากัน อีกทั้งไทยลีกเตะต่อเนื่อง นักเตะอาจจะล้า, บาดเจ็บ หรือเกิดอาการเบื่อฟุตบอลเพราะเล่นมาตลอดได้ ถ้าหากขยับคิวไทยลีกให้ทีมชาติมีเวลาเพิ่มอีกสักสัปดาห์ จะกำลังพอดี ซึ่งคงต้องไปหารือกับสมาคมฯ และไทยลีกอีกครั้ง หากลองเทียบกับเวียดนาม ที่ยุติลีกไปแล้วเพื่อเตรียมทีมชาติอย่างเดียว นักกีฬาฟิต และกระหายลงเล่น

“นักเตะไทยมีความสามารถอยู่แล้ว ถ้ามีการรวมตัวกันที่ดี บวกกับองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งการโค้ช, แฟนบอล ทุกๆ ส่วนช่วยกันจะประสบความสำเร็จได้ เทียบในอาเซียนนักเตะไทยความสามารถเหนือกว่า ถ้าอยากจะเป็นแชมป์อยู่ที่เมื่อรวมกันแล้วจะกระหายได้แค่ไหนเท่านั้น” เซอร์เด็จ ทิ้งท้าย.