สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องจากการที่อียู รับรองกฎหมายครอบคลุมฉบับแรกของโลก ในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมเอไอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบที่ทรงพลัง เช่น แชตจีพีที ของโอเพนเอไอ ภายหลังการเจรจาที่เข้มข้นและยาวนาน
“สำนักงานเอไอ มีเป้าหมายที่จะทำให้เกิดการพัฒนา การนำมาใช้ และการใช้งานเอไอในอนาคต ในลักษณะที่ส่งเสริมผลประโยชน์ทางสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงนวัตกรรม และการลดความเสี่ยง” คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ระบุเสริมว่า สำนักงานเอไอ มีสมาชิก 140 คน และจะถูกจัดตั้งขึ้นภายในอีซี
ด้านนายตีแยรี เบรตอง ข้าหลวงด้านตลาดภายในของอียู กล่าวว่า สำนักงานดังกล่าวจะส่งเสริมระบบนิเวศเอไอของยุโรป ซึ่งเป็นนวัตกรรม, มีความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนเคารพกฎระเบียบและค่านิยมของอียู
ทั้งนี้ กฎหมายของอียู ที่เรียกว่า “กฎหมายเอไอ” จะควบคุมระบบเอไอ ตามการประเมินความเสี่ยงของโมเดลซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ยิ่งเอไอมีความเสี่ยงต่อด้านต่าง ๆ ของแต่ละบุคคล เช่น สิทธิ หรือสุขภาพ อยู่ในระดับสูงเท่าใด ภาระผูกพันของระบบในการคุ้มครองบุคคล ก็จะยิ่งมากขึ้นเช่นกัน
อนึ่ง การประกาศของอียู เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ผู้ตรวจสอบของอียู วิพากษ์วิจารณ์อีซีว่า ไม่ลงทุนในเอไอมากพอ เพื่อบรรลุความทะเยอทะยานของกลุ่ม.
เครดิตภาพ : AFP