เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 พ.ค.67 ที่ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.น้ำพอง ได้ควบคุมตัว นายลิขิต อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ด.ช.วัย 3 เดือน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากเกิดความรำคาญที่น้องร้องไห้งอแงส่งเสียงดัง จึงเข้าไปอุ้มตัวน้องกัปตันมาโยนลงถังสีดำและก่อเหตุทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยตำรวจได้ทำการสอบปากคำก่อนส่งเข้าห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาของโรงพักทันที

ขณะที่ ตาของ ด.ช.วัย 3 เดือน กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมักจะคุยกับชาวบ้านในหมู่บ้านแบบโอ้อวดว่าตัวเองเป็นเด็กตำรวจ และเสพยาเสพติดแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งตอนนี้โกรธผู้ต้องหามาก ที่มาทำกับหลานชายที่ตนเองรักที่สุดเช่นนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นส่วนตัวเชื่อว่าผู้ต้องหาตั้งใจจะฆ่าหลานชายของตนเอง และไม่ได้เป็นการหยอกหรือทำหลุดมือ แต่เป็นการตั้งใจใช้มือบีบคอหลานวัย 3 เดือนเพื่อไม่ให้ร้องไห้ จนกามช้ำ ทั้งยังกัดหน้าอกซ้ำอีก 

“เด็กอายุ 3 เดือน ทำยังไงยังไงก็ต้องร้องไห้เพราะอายุเพียงเท่านั้น พอไม่หยุดร้องก็จับทุ่มลงในถังสีดำ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสสมองบวม ชาวบ้านละแวกนี้ออกมาเห็นก็จะคิดว่าอาบน้ำให้หลานแต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่และถ้าหากจะบอกว่าทำหลุดมือยิ่งเป็นไปไม่ได้ถ้าทำหลุดมือทำไมกามถึงช้ำ ในลักษณะถูกมือบีบ ทั้งหน้าอกยังมีรอยฟันกัด อยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฏหมายให้ถึงที่สุด จะโอ้อวดว่าตัวเองเป็นเด็กตำรวจทำผิดแล้วไม่นานก็ได้ออกมา ในความเป็นจริงมันไม่สมควรที่จะเป็นแบบนั้น เพราะทำกับเด็กที่ยังไม่รู้ประสีประสา ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นผ้าขาว” ตาของ ด.ช.วัย 3 เดือน กล่าว


ก่อนหน้านี้เคยเห็นคลิปวิดีโอของผู้ต้องหา ในโทรศัพท์ที่เอามาเปิดให้ดูว่าตัวเองขับรถแข่งแต่งซิ่งอยู่ที่ จ.ชลบุรี แล้วผันตัวมาเป็นเอเย่นต์ยาเสพติด จากคนอ้วนๆ กลายเป็นคนผอมสักลายเต็มตัว ก่อนหน้านี้ตนเองก็เคยเตือนพ่อแม่หลานชายวัย 3เดือนไปแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับคนเหล่านี้ กระทั่งเกิดเรื่องขึ้นกับหลานของตนเองจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้าน  พ.ต.อ.ชุมพล บัวชุม ผกก.สภ.น้ำพอง กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อเด็ก 3 เดือน ที่มาอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งในเบื้องต้นนั้นได้แจ้งข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนข้อหาทำร้ายร่างกายนั้นจะต้องรอผลจากทางแพทย์มาประกอบสำนวนการสอบสวน โดยอาการของเด็กนั้น พบว่ามีอาการสมองบวม ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ พร้อมกันนี้ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาหลักฐานและพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดในการดำเนินคดีต่อไป.