จากกรณี ลุงบุญส่ง สนเสริม อายุ 86 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141 หมู่ 16 ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร หนึ่งในผู้ร่วมโครงการปลูกป่าของกรมป่าไม้มา 30 กว่าปีแล้วยังไม่สามารถตัดได้ จนปัจจุบันมีความเดือดร้อนทั้งบ้านที่พักอาศัยก็จะพัง แถมยังต้องเลี้ยงดูลูกชายที่พิการเดินไม่ได้ รวมทั้งครอบครัวของ นางวิมล จะนุช ก็ได้สูญเสียคุณพ่อคุณแม่ไป แต่ก็ยังไม่สามารถตัดได้ จนต้องปล่อยรกร้าง ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
‘ตา-ยาย’ ร่วมปลูกป่าโครงการรัฐตายแล้วยังไม่ได้ตัด ถึงรุ่นลูกสิ้นหวังปล่อยรกร้าง
ตาวัย 86 ชีวิตสิ้นหวัง ร่วมปลูกป่าโครงการรัฐ แต่ตัดไม้ไม่ได้ 30 ปีหมดตัวแล้ว
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. นายเรืองเดช ร่วมชัยภูมิ หนึ่งในแกนนำของผู้ร่วมโครงการปลูกป่า ที่ อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ได้เสนอแนะวิธีง่ายๆ ว่า หน่วยงาน อ.อ.ป. (องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้) เป็นรัฐวิสาหกิจขึ้นตรงต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกันกับกรมป่าไม้ เป็นหน่วยงานทำไม้มีโรงงานแปรรูปไม้ ผลิตเฟอร์นิเจอร์ จำหน่ายและเป็นหน่วยงานเดียวที่สามารถทำไม้สักส่งไปต่างประเทศได้ มีสวนป่าเป็นของตนเอง ซึ่งความเดือดร้อนของประชาชนที่เข้าร่วมตามโครงการส่งเสริมเกษตรกรปลูกป่าแล้วตัดไม้ไม่ได้ เป็นเพราะหน่วยงานของรัฐยกเลิก สทก. (สิทธิที่ทำกิน) พร้อมใบตอบรับการสอบสวนสิทธิ (ของ ส.ป.ก.) และไม่ต่อสัญญาให้กับ นิคมสหกรณ์ ทั้งนี้ ในระเบียบกรมป่าไม้ พ.ศ. 2537 บอกไว้ชัดเจนว่าที่ดินประเภทใดบ้างที่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ มีขั้นตอนการปฏิบัติชัดเจนกว่าจะได้รับเงินสนับสนุนและปลูกดูแลบำรุงรักษายาวนาน 5 ปี และมีการติดตามผลงานตลอดเวลาของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะพื้นที่เข้าร่วมโครงการนั้น กรมป่าไม้ได้มาตรวจสอบทุกแปลง มีภาพถ่ายทางอากาศบ่งบอกว่าอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 3/4/5 ทุกแปลงทุกราย และในพื้นที่ก็รับการแก้ไขปัญหาตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 มาแล้วในพื้นที่นั้นๆ
นายเรืองเดช กล่าวอีกว่า ปัจจุบันราษฎรไม่สามารถนำไม้มาทำประโยชน์ได้ การแก้ไขปัญหานี้เพื่อหาทางออกก็ไม่น่าจะสลับซับซ้อนขนาดนี้ ถ้าเชิญหน่วยงาน อ.อ.ป. (องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้) มาร่วมให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหา อ.อ.ป.มีอุปกรณ์ เครื่องมือ ตัดได้ แปรรูปไม้ได้ทำเฟอร์นิเจอร์และส่งไม้ออกต่างประเทศได้ ทำไมไม่ให้ อ.อ.ป. มารับซื้อไม้จากราษฎรผู้ที่มีเอกสาร แบบ ส.ก.3 ทุกราย เงินรายได้ก็หมุนเวียนภายในประเทศ ราษฎรก็ได้รับประโยชน์ไปด้วย หากจะรอการดำเนินการทางกฎหมาย โดยรวบรวมเอกสารที่ถูกต้องก็ไม่ทราบวันเวลาที่แน่นอน.