สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย สาบานตนที่ ราษฏรปติภวัน หรือทำเนียบประธานาธิบดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อรับตำแหน่งผู้นำรัฐบาลสมัยที่สามอย่างเป็นทางการ หลังนำพรรคภารติยะ ชนตะ (บีเจพี) ชนะการเลือกตั้งทั่วไป ระหว่างวันที่ 19 เม.ย.-1 มิ.ย. ที่ผ่านมา


นอกจากการสาบานตนของโมดี ในพิธีที่มีนางเทราปที เมอร์มู ประธานาธิบดี เป็นประธาน ยังมีการประกาศแต่งตั้งและสาบานตนของรัฐมนตรี 71 คน แน่นอนว่า ส่วนใหญ่ต้องมาจากพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (เอ็นดีเอ) ซึ่งเป็นกลุ่มพรรครัฐบาลที่มีพรรคบีเจพีเป็นแกนนำ


อนึ่ง การแต่งตั้งรัฐมนตรีของโมดีในครั้งนี้ ลดลงจากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว 11 ที่นั่ง แต่ผู้นำอินเดียยังไม่ได้ให้เหตุผล ว่าเพราะเหตุใดจึงลดจำนวนรัฐมนตรีสำหรับรัฐบาลสมัยที่สาม

นางเทราปที เมอร์มู ประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย ทักทายกัน ระหว่างพิธีสาบานตนรับตำแหน่งสมัยที่สามของโมดี ที่ราษฏรปติภวัน ในกรุงนิวเดลี


สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปของอินเดียครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งตามกำหนดการ และก่อนหน้านี้แทบทุกฝ่ายคาดการณ์ไปในทางเดียวกัน ว่าพรรคบีเจพีและพันธมิตร จะยังคงได้รับชัยชนะ “อย่างถล่มทลาย” แม้พรรคบีเจพีได้รับเลือกตั้งเข้ามามากที่สุด 240 จาก 543 ที่นั่งในโลกสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร แต่ลดลง 63 ที่นั่ง จากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 และต่ำกว่าเป้าหมายของพรรคที่ตั้งไว้ราว 300 ที่นั่ง จากการเลือกตั้งครั้งนี้


ทั้งนี้ เมื่อรวมเสียงสนับสนุนกับพันธมิตร ฝ่ายรัฐบาลอินเดียจะมีที่นั่ง 293 ที่นั่งในโลกสภา ส่วนพันธมิตรฝ่ายค้านที่มีพรรคคองเกรสเป็นแกนนำ ได้รับการเลือกตั้งรวมกัน 234 ที่นั่ง ซึ่งสูงเกินความคาดหมายของทุกฝ่าย โดยพรรคคองเกรสของนายราหุล คานธี ผู้นำฝ่ายค้าน ได้รับการเลือกตั้ง 99 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นมากถึง 47 ที่นั่ง จากการเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว


ด้านบรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ปัจจัยสำคัญซึ่งส่งผลให้พรรคบีเจพีทำผลงานได้ไม่ดีตามที่หวัง เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ และนโยบายปฏิรูปหลายอย่าง ที่มีเรื่องเชื้อชาติและศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงกระทบกับการตัดสินใจของชาวอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเป็นพหุสังคมในระดับสูง.

เครดิตภาพ : AFP