สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ว่า พล.ท.เบนนี กันต์ซ อดีต รมว.กลาโหมอิสราเอล ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีสงครามของประเทศ นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 แถลงลาออกจากการเป็นส่วนหนึ่งของคณะรัฐมนตรีสงคราม
ทั้งนี้ พล.ท.กันต์ซ ปฏิบัติตามที่ได้ลั่นวาจาไว้เอง ว่าจะลาออก หากนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ไม่นำเสนอแผนปฏิบัติการหลังสงครามในฉนวนกาซา “ที่เป็นรูปธรรม” ภายในวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้นำอิสราเอลกล่าวถึงข้อเรียกร้องของอีกฝ่ายเพียงว่า “ยังไม่ใช่เวลาเหมาะสม” ที่จะละทิ้งปฏิบัติการในสมรภูมิ
"Don't let our people be torn apart."
— DW News (@dwnews) June 9, 2024
Politician Benny Gantz accused Israel's PM Netanyahu of mismanaging the war in Gaza as he quit the war Cabinet and called for new elections. pic.twitter.com/8hOp2W8S7I
แม้การลาออกของ พล.ท.กันต์ซ ไม่ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล แต่ยิ่งเป็นการบ่งชี้แรงกดดันภายในรัฐบาลที่เพิ่มมากขึ้น จากสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งยังคงยืดเยื้อ และชะตากรรมของตัวประกันที่ยังคงอยู่กับกลุ่มฮามาส
อนึ่ง หน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพอิสราเอลช่วยเหลือตัวประกันออกมาได้ 4 คน จากเมืองนูไซรัต ทางตอนกลางของฉนวนกาซา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่กลุ่มฮามาสกล่าวด้วยว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการ “สังหารหมู่” ชาวปาเลสไตน์ด้วยอย่างน้อย 274 ราย
อย่างไรก็ตาม เมื่อรวบรวมกับสถิตินับตั้งแต่สงครามปะทุ เท่ากับว่า เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลช่วยเหลือตัวประกันได้เพียง 7 คนเท่านั้น หากไม่นับตัวประกันราว 105 คน แบ่งเป็นชาวอิสราเอล 81 คน ชาวไทย 23 คน และชาวฟิลิปปินส์ 1 คน ที่กลุ่มฮามาสปล่อยตัวระหว่างช่วงหยุดยิง 1 สัปดาห์ เมื่อปลายปีที่แล้ว แลกกับการที่อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 240 คน.
เครดิตภาพ : AFP