เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เพจเฟซบุ๊กสาวรายหนึ่ง ได้เข้ามาร้องเรียนผ่านเฟซบุ๊กของประชาสัมพันธ์จังหวัดอ่างทอง ว่าถูกเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งใน ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง โชว์ของลับให้ตนเองดูในแชตไลน์ที่ใช้ชื่อว่า MeAn โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเจ้าอาวาสวัดดังเดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.นครราชสีมา และได้พูดคุยกันในโปรแกรมแชตไลน์ จากนั้นได้นำของลับของตนเองออกมาโชว์ให้ดูระหว่างที่วิดีโอคอล ตนเองจึงได้แคปภาพไว้ เนื่องจากตนเองรู้สึกว่าถูกทำอนาจาร จึงได้เข้ามาร้องเรียนให้ดำเนินการกับเจ้าอาวาสรายนี้
ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังหญิงสาวรายดังกล่าว บอกว่า ขณะนี้ตนเองได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดนครราชสีมาแล้ว หากยังเอาผิดไม่ได้ก็จะไปร้องเรียนรายการชื่อดัง
ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดดังกล่าว เพื่อทำการสอบถามข้อเท็จจริงจากเจ้าอาวาสที่มีภาพในคลิป โดยเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว อายุ 60 ปี เปิดเผยว่า ภาพและคนในคลิปดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่อาตมาเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านที่จังหวัดนครราชสีมา ได้มีแชตไลน์ทักเข้ามาให้ร่วมลงทุนในการขายสินค้า อาตมาหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปร่วมลงทุน
โดยมีการพูดคุยกันในแชตไลน์วิดีโอคอล ระหว่างที่พูดคุย หญิงสาวได้มีการพูดจาหว่านล้อมว่า ตนเองจะอาบน้ำมาอาบด้วยกันมั้ย และส่งคลิปภาพมาให้ดู ตอนนั้นอาตมาปวดฉี่กำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ เลยควักอวัยวะเพศของตนเองออกมาให้หญิงสาวดู อาตมาคิดว่าที่หญิงสาวนำคลิปมาประจานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแบล็กเมล์อาตมาให้เกิดความอับอายเสียชื่อเสียงอาตมาและวัด สาเหตุเพราะว่าอาตมาจะถอนเงินที่ลงทุนไปกลับคืน แต่หญิงคนดังกล่าวบอกว่าจะต้องโอนเงินเข้าไปอีก จึงจะถอนเงินที่ลงทุนเก่าออกไปได้ ซึ่งหลังจากถูกปล่อยคลิป อาตมารู้สึกกลัว จึงโอนเงินไปให้หญิงคนดังกล่าวกว่า 30,000 บาทแล้ว แต่หญิงสาวก็ยังให้อาตมาโอนอีกเรื่อย ๆ โดยขู่ว่าถ้าไม่โอนจะนำคลิปไปเผยแพร่ ซึ่งในวันนี้อาตมาจะเดินทางไปแจ้งเรื่องกับเจ้าคณะอำเภอ
ด้าน พระสุวรรณวชิราทร รักษาการเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องได้มอบหมายให้เจ้าคณะอำเภอวิเศษชัยชาญทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ส่วนทางเจ้าอาวาสวัดดังคงต้องให้ลาออกจากเจ้าอาวาสไปก่อน โดยทางธรรมถือว่ามีความผิดในเรื่องโลกวัชชะทำให้โลกติเตียน เสื่อมเสียชื่อเสียงในพระพุทธศาสนาทั้งตนเองและวัด แต่ไม่มีความผิดถึงขั้นต้องสึกขาดจากความเป็นพระ เนื่องจากเป็นการโชว์ของลับและไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม
