เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณภายในสำนักงานเทศบาลตำบลงิม (หลังเก่า) อ.ปง จ.พะเยา นายอัครา พรหมเผ่า นายก อบจ.พะเยา เป็นประธานเปิดการอบรมปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ขานรับนโยบายในเรื่องการสร้างรายได้ทางเลือกใหม่ให้ชาวบ้านของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ โดยพบว่าในพื้นที่ จ.พะเยา ยังไม่มีที่ไหนริเริ่มที่จะส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมนี้แม้แต่ที่เดียว มีทางนางกัญญาณัฐ สุทธวงค์ นายก ทต.งิม ชาวบ้านเกือบ 100 คนเข้าร่วม มีทางวิทยากรจากกรมหม่อนไหมมาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกและการเลี้ยงตัวหนอนไหม

นางกัญญาณัฐ กล่าวว่า เมื่อช่วงก่อนทาง ทต.งิม ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกันในด้านการขับเคลื่อนส่งเสริมและพัฒนาอาชีพหม่อนไหม ระหว่าง กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับ ทต.ตำบลงิม เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ภายใน อบจ.พะเยา ทั้งนี้ หน่วยงานของตนได้มีเจตนาที่จะร่วมมือกันขับเคลื่อนส่งเสริมและพัฒนาอาชีพด้านหม่อนไหมในพื้นที่ของ ทต.งิม ด้วย ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่การจัดทำศูนย์เรียนรู้ด้านการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การส่งเสริมสนับสนุนอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และการแปรรูปผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ให้กับเกษตรกร หน่วยงานการศึกษา และหน่วยงานอื่นๆ ที่สนใจ รวมทั้งยังเพื่อเป็นการขับเคลื่อนงานส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้แก่ชาวบ้านที่สนใจ อีกทั้งยังเป็นรายได้ทางเลือกใหม่ด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการรวมกลุ่มอาชีพพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ซึ่งสามารถก่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคง รวมทั้งยังมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ พื้นที่ที่เตรียมจะปลูกต้นหม่อนนี้ถือว่าเป็นแห่งแรกของ จ.พะเยา ที่ได้นำร่องในเรื่องของการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทั้งนี้ หากพบว่าลงทุนในครั้งนี้ สร้างรายได้ทางเลือกใหม่กับชาวบ้าน อนาคตทั้ง จ.พะเยา ก็สามารถเรียนรู้และเริ่มทำตามได้เช่นกัน

ด้านนายอัครา กล่าวเสริมว่า ปกติแล้วชาวบ้านในพื้นที่ จ.พะเยา ทั้ง 9 อำเภอ ส่วนใหญ่มีอาชีพ ทำนา ปลูกข้าวโพด ปลูกถั่ว ทำสวนลิ้นจี่และลำไย ซึ่งพบว่าปัจจุบันในพืชผลการเกษตรเริ่มมีราคาที่ตกต่ำลง ทำให้ทาง รมว.เกษตรฯ ทราบเรื่อง จึงได้มีการหารือในเรื่องของแนวทางที่จะส่งเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้ในทางเลือกใหม่ด้วย โดยได้ผลักดันในเรื่องของการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมนี้ ให้เป็นพืชเศรษฐกิจแนวใหม่ของ จ.พะเยา ซึ่งครั้งนี้ก็ได้มาลงพื้นที่ใน ต.งิม อ.ปง ในการปลูกนำร่องหากพบว่าอนาคตเกิดผลผลิตที่ดี รวมทั้งมีการรองรับจากภาครัฐ ที่จะมีตัวแทนบริษัทเข้ามารับซื้อ ก็จะทำให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งสามารถผลักดันให้ทุกพื้นที่ สามารถปลูกพืชทางเลือกนี้ ให้เป็นรายได้เสริมได้อีกทางเช่นกัน