เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี สามีมาร้องเรียนทางเพจโหนกระแสว่า เมียลอบคบชู้กับพระ พอจับได้ก็ปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่สุดท้ายชู้ไปสึกจากพระ แล้วหนีไปอยู่ด้วยกัน
นายโอม สามีอายุ 48 ปี ชาว จ.นครราชสีมา เล่าว่า ตนมีภรรยา อายุ 41 ปี หลังคบหากัน ได้ย้ายไปอยู่บ้านภรรยาที่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน อยู่กินกันมา 20 ปี จดทะเบียนสมรสและมีลูกด้วยกัน 1 คน ความสัมพันธ์ปกติดีมาตลอด ไม่เคยตบตี ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเลย แต่ช่วง 1 ปีมานี้ ที่วัดใกล้บ้านมีการบูรณะศาลา ภรรยาซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ไปคอยช่วยงานที่วัด บางครั้งก็บอกว่า ต้องไปรับพระพาไปรับกิจนิมนต์ หลังๆ เริ่มบ่อยขึ้น จนตนเริ่มรู้สึกว่า ไม่เหมาะสมเพราะเป็นสีกา ถามว่าทำไมพระท่านไม่วานโยมผู้ชายให้ไปช่วยงาน ไปรับไปส่ง ภรรยาก็บอกว่าโยมผู้ชายไม่ว่าง ภรรยาเป็นกรรมการวัด ก็ต้องทำแทน
แม้กระทั่งช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มีชาวบ้านมาบอกว่าภรรยาตนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เข้าๆ ออกๆ วัด ชาวบ้านเขาเริ่มนินทา สามีกับญาติเลยเรียกฝ่ายภรรยามานั่งคุยกัน ภรรยาปฏิเสธว่าไม่ได้มีอะไร และได้โทรฯ หาพระรูปนี้ อายุ 33 ปี ให้ช่วยยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรจริงๆ แต่ญาติก็ยืนยันว่าให้ถอยออกมา เพราะอย่างไรก็ไม่เหมาะสม
จากนั้นตนก็ได้เรียกภรรยาไปคุยกัน 2 ต่อ 2 ภรรยาก็ยังยืนกรานว่าไม่ได้มีอะไรจริงๆ แต่ตนก็บอกไปว่าถ้าไม่ได้ทำก็ถอยออกมา หรือถ้าทำก็ขอให้หยุด ตนให้อภัย ภรรยาก็ขอโทษและรับปากว่าจะไม่ทำอีก แต่ปรากฏว่าในวันเดียวกัน ภรรยาหายไปตั้งแต่ช่วงกลางวัน จนค่ำมืดก็ยังไม่กลับ ตนไปตามหาก็ไม่พบ จนมีพระรูปหนึ่งบอกว่าภรรยาตนหายออกไปกับพระรูปนี้
ตนพยายามไม่ทำอะไรรุนแรงเพราะห่วงลูก และไม่อยากให้ลูกมารับรู้เรื่องที่ทำให้เสียใจเสียความรู้สึก แต่ภรรยาก็มักจะหายไปกับพระรูปนี้ บางครั้งหายไปข้ามคืน แม้ตนจะให้โอกาสให้อภัย แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่หยุด กระทั่งพระรูปนี้ไปสึก และมาหาภรรยาตน ตนเจอจึงบันดาลโทสะเข้าไปต่อย แต่ภรรยาก็บอกว่าจะเลิกยุ่งกันแล้ว ให้ดูแชตเป็นหลักฐานว่ามีการบอกเลิกจริง เพียงแค่จะมาคุยมาลาเท่านั้น ตนก็ให้อภัยอีก
หลังจากเหตุการณ์นั้น ภรรยาบอกว่าอาย อยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ จะขอไปทำงานกับเพื่อนที่ จ.ชลบุรี ตนก็เข้าใจและยินยอมให้ไป พร้อมสนับสนุนทุกอย่าง หลังจากไปได้ไม่กี่วัน ก็มีการส่งรูปมาว่าได้ไปขายอาหารอยู่กับเพื่อน จากนั้น ภรรยาบอกว่าจะกลับมาเก็บของที่บ้านเพิ่มเติม ขาดเหลืออะไรตนก็เก็บให้ หาให้ทุกอย่าง โดยภรรยาได้มาค้างที่บ้าน 1 คืน ตนก็พาไปหาเพื่อนไปสังสรรค์และเหมือนให้เขาได้เลี้ยงส่งกัน ด้วยความมึนเมา ตนได้ถอยรถขูดข้างบ้าน ภรรยากลับด่าทอต่อว่าตนอย่างหนักแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ด่าถึงแม่ ตนจึงตบภรรยาไป 3 ที เขายกมือมากัน โดนหน้าโดนแขนเขา นั่นคือครั้งแรกที่ลงมือกับภรรยา ยอมรับว่าเคยขู่เขาว่าถ้ายังไม่หยุดจะฟ้อง จะฆ่าให้ตายทั้งคู่ พูดไปด้วยความโมโห แต่คิดแล้วก็คงไม่ทำ ฆ่าเขาตนก็คงติดคุก แล้วใครจะดูแลลูก ตั้งแต่คืนที่ตนพลั้งมือตบภรรยาไป ภรรยาก็ขับรถหนีหายไปเลย ตอนแรกตนคิดว่าไป จ.ชลบุรี พยายามตามหาก็ไม่เจอ โทรฯ ถามเพื่อนภรรยาที่บอกว่าจะไปด้วยกัน เพื่อนก็บอกว่าไม่เห็นว่าเมียเราจะมาหา รอนานแล้ว ทำให้รู้ว่าภรรยาน่าจะไปกับชายชู้แล้ว กระทั่งมีคนเห็นภรรยาไปซื้อของที่ตลาด เดินกับผู้ชายคนนี้ เราไปดักรอแต่ก็ไม่เจอ คิดว่าเขาน่าจะรู้ตัวแล้วย้ายที่
ที่แท้เขาไม่ได้ย้ายไปไหนไกล แต่เมียเราไปอยู่กับชายชู้ที่บ้าน ซึ่งไม่ได้ไกลจากบ้านตน ตนตามไปที่บ้านของชายชู้ ครั้งแรกเจอภรรยาอยู่หน้าบ้าน และมีคนอยู่ในบ้านแต่ไม่ออกมา ตนขอให้ภรรยากลับบ้าน จะได้ไปส่งลูกเข้าโรงเรียนด้วยกัน แต่ภรรยาก็ไม่กลับ มีการโต้คารมกันไปกันมา เขาบอกว่าเราชั่วอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็ตอบโต้ไปว่าเราไม่เคยมีชู้ อีกฝ่ายนั่นแหละที่มีชู้
ตนกลับไปครั้งที่ 2 เพื่อนำเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับลูกเข้าเรียนไปให้ภรรยาเซ็น และได้บอกว่าหากจะหย่าก็ให้มาตกลงเรื่องลูกให้เรียบร้อย โดยครั้งนี้ตนเจอชายชู้ ตนบอกว่าสิ่งที่ทั้งคู่ทำมันผิด เพราะตนมีทะเบียนสมรส แต่ชายชู้กลับบอกให้ตนฉีกทะเบียนสมรสทิ้งไปเลย เพราะผู้หญิงมาอยู่กับเขาเอง และผู้หญิงเลือกเขา ท้าทายให้ตนฟ้องชู้ จึงได้มีปากเสียงกัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาห้าม ก็บอกแต่ว่าให้ตนไปตกลงกับภรรยาให้เรียบร้อยร้อยเรื่องหย่า
ขณะที่ฝ่ายภรรยา ไม่ยอมรับสายโฟนอิน แต่เคยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า สามีเลวมาก ทำร้ายร่างกาย ทำให้เราทนอยู่ไม่ได้ เขาทำร้ายร่างกายตน จะฟ้องหย่าก็ฟ้องได้ แต่ตนไม่อยากฟ้อง แล้วที่เขาอ้างว่าตนเป็นชู้ เราไม่ได้มีอะไรเกินเลย ยอมรับว่าคุยกันในแชตจริง แต่ไม่ได้มีอะไรเกินเลย เรารู้จักศีล 5 ดีอยู่แล้ว
ที่ผ่านมาเราทำงานหาเลี้ยงเขามาตลอด แล้วกล้าพูดได้ยังไงว่าเราจะทิ้งลูก คิดมาได้ยังไงว่าเราจะปล่อยให้ลูกตาย บอกเลยว่าตนไม่แคร์ว่าสังคมจะมองยังไง อยากทำอะไรก็ทำเลย เพราะตนก็มีภาระเหมือนกัน อยากให้เรื่องมันจบๆ ไปเสียที
ขณะน้องสาวของสามีบอกว่า ที่พี่สะใภ้พูดว่าพี่เราไม่ทำงาน ไม่หาเงินเลี้ยงลูก อยากจะบอกว่า เขาตกงานมาก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ มาทำนา ทำงานรับจ้าง ขวนขวายหาเงินต่างๆ นานา ไม่ได้หาเงินเยอะก็จริง แต่เราก็ช่วยดูแลเต็มกำลัง ตอนลูกพี่ชายเข้าโรงเรียน ตนเป็นคนโอนเงินค่าเทอมให้ทั้งหมด รองเท้ากีฬาอะไรต่างๆ ตนก็เป็นคนโอนเงินให้ ช่วยพี่ชาย ช่วยหลาน
ต่อมาฝ่ายภรรยาโฟนอินเข้ามาพูดในมุมของตัวเองว่า ทางรายการกำลังฟังความข้างเดียว ที่ผ่านมาตนรับผิดชอบหนี้สินทุกอย่าง แล้วที่สามีทำร้ายร่างกายตน ตนยังไม่เคยพูดเลย ยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรกันตอนที่ผู้ชายเป็นพระ แต่พอเขาสึกแล้วค่อยมาอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ขอพูดอะไรอีก แล้วก็วางสายไป
ขณะที่คุณโอม บอกว่าจะขอฟ้องชู้ และฟ้องหย่า แต่ตอนนี้ตนติดขัดเรื่องเงิน ไม่มีเงิน ซึ่งทนายแก้วรับปากว่าจะดูแลให้ไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ขอแค่ต้องตัดสินใจให้ชัด ว่าจะฟ้องจริงหรือไม่ เท่านั้นพอ