สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ว่า ไอซ์แลนด์, นอร์เวย์ และญี่ปุ่น เป็น 3 ประเทศที่ยังคงอนุญาตให้มีการล่าวาฬเชิงพาณิชย์ แม้นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสัตว์ต่อต้านอย่างรุนแรง
นางบีจาร์กี โอลเซน กุนนาร์สดอตตีร์ รมว.ประมง อาหารและเกษตรกรรม อนุมัติใบอนุญาตล่าวาฬฟิน 128 ตัว ให้แก่บริษัทฮวาลูร์
อย่างไรก็ตาม บริษัทยอมรับว่า อาจไม่สามารถเตรียมเรือให้ทันเวลาได้ เนื่องจากรัฐมนตรีตัดสินใจช้าเกินไป โดยฤดูกาลล่าวาฬในไอซ์แลนด์ จะเกิดขึ้นระหว่างกลางเดือน มิ.ย.-ก.ย. ของทุกปี และฮวาลูร์ยื่นขอใบอนุญาตใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา แทนใบอนุญาต 5 ปี ที่กำลังจะหมดอายุ
“หากเธอคิดว่า เราสามารถเริ่มกิจกรรมประเภทนี้ได้โดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าหนึ่งวัน เธอก็อยู่บนโลกที่แตกต่างจากชาวไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่” นายคริสจาน ลอฟต์สัน จากฮวาลูร์กล่าว “พวกเราไม่สามารถเตรียมอะไรได้เลย” เนื่องจากนักล่าวาฬต้องดิ้นรนเพื่อล่าให้ถึงโควตา
ทว่าฤดูกาลปี 2566 มีระยะเวลาสั้นจนเหลือเพียง 3 สัปดาห์ ส่งผลให้ฮวาลูร์สามารถล่าวาฬได้เพียง 24 ตัว จากโควตาทั้งหมด 209 ตัว ขณะที่บริษัทล่าวาฬแห่งอื่นทยอยปิดกิจการไปเมื่อปี 2563 เนื่องจากไม่ได้กำไร
เมื่อปีที่แล้ว ไอซ์แลนด์ระงับการล่าวาฬเป็นเวลา 2 เดือน หลังรัฐบาลพบว่า การใช้ฉมวกระเบิดของนักล่า ไม่สอดคล้องกับสวัสดิภาพสัตว์ เนื่องจากมันทำให้วาฬต้องทุกข์ทรมานเป็นเวลานานถึง 5 ชั่วโมง หลังถูกฉมวกแทง
ในเวลาเดียวกัน นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสัตว์เรียกร้องให้ไอซ์แลนด์ “ยุติความโหดร้ายที่ไม่จำเป็น” และประณามรัฐบาลว่า เพิกเฉยต่อหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของการฆ่าวาฬเชิงพาณิชย์.
เครดิตภาพ : AFP