สื่อเวียดนาม docnhanh รายงานว่า หน่วยงานวิจัยของรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้ก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจจากสังคมแดนกิมจิ หลังเสนอแนะให้เด็กผู้หญิงควรเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาเร็วกว่าเด็กผู้ชาย 1 ปี เนื่องจากมาตรการดังกล่าว อาจช่วยเพิ่มอัตราการเกิดของประชากรแดนกิมจิ

ตามรายงานของนักวิเคราะห์จากสถาบันการคลังแห่งเกาหลี การสร้างช่องว่างของอายุระหว่างชายและหญิงในโรงเรียน จะสร้างความดึงดูดใจมากขึ้น เมื่อพวกเขาเข้าสู่วัยที่แต่งงานได้ คำกล่าวอ้างนี้มีพื้นฐานอยู่บนแนวคิดที่ว่า เนื่องจากผู้ชายจะโตช้ากว่า ผู้ชายมักจะชอบผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า ตามทฤษฎีแล้ว ผู้หญิงเหล่านี้มักจะแต่งงานกับผู้ชายที่มีอายุมากกว่า

“เมื่อพิจารณาว่าความสามารถในการพัฒนาของผู้ชายช้ากว่าผู้หญิง การให้เด็กผู้หญิงเข้าโรงเรียนเร็วขึ้นหนึ่งปี อาจช่วยให้ชายและหญิงมีเสน่ห์ดึงดูดกันมากขึ้น เมื่ออายุถึงเกณฑ์ที่เหมาะสมในการแต่งงาน”

ข้อเสนอนี้เป็นหนึ่งในหลายแนวคิด ที่นำมาช่วยแก้ปัญหาสถานการณ์ทางประชากรศาสตร์ของเกาหลีใต้ ที่มีอัตราการเกิดต่ำลงเรื่อย ๆ

ด้านชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงข้อเสนอแนะนี้ว่า

“พวกเขามองเด็ก ๆ เป็นเพียงเครื่องมือในการสืบพันธุ์จริง ๆ หรือ? มันน่าขยะแขยงเหลือเกิน”

“นี่คือสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าการบอกพวกเขาว่าอย่ามีลูก”

“พวกเขาควรเสนอนโยบายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงดูเด็กแทน”

อัตราการเกิดที่ต่ำลงเรื่อย ๆ ของเกาหลีใต้ ทำให้มีการคาดการณ์ว่า จากจำนวนประชากร 9.4 ล้านคนในปี พ.ศ. 2565 จะลดลงเหลือ 7.9 ล้านคนในปี พ.ศ. 2595 สาเหตุจริง ๆ เพราะค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูและให้การศึกษาเด็กสูงมาก และความกดดันต่อฝ่ายหญิงที่ต้องลาออกจากงานมาเลี้ยงดูลูก

เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลกรุงโซลกล่าวว่าจะมอบเงิน 1 ล้านวอน (ประมาณ 26,500 บาท) ให้กับคู่รักที่ยกเลิกการทำหมัน ขณะเดียวกัน รัฐบาลแห่งชาติ กำลังพิจารณาเพิ่มแรงจูงใจทางการเงินให้กับคู่รักสำหรับการมีลูก เป็นตัวเลขสูงถึง 135 ล้านวอน (ประมาณ 3.6 ล้านบาท) นอกจากนี้ ยังมีโครงการนำร่องที่จะส่งแม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็กชาวฟิลิปปินส์ 100 คน ไปที่เกาหลีใต้ เพื่อลดแรงกดดันต่อผู้หญิงทำงานที่กลัวว่าต้องลาออกจากงานหากมีลูก.

ที่มาและภาพ : docnhanh, Modern Seoul/Pixabay