ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ เครือข่ายเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับศูนย์พัฒนานโยบายสาธารณะจังหวัดศรีสะเกษ โดยนายประดิษฐ์ พรหมเสนา ประธานศูนย์พัฒนานโยบายสาธารณะจังหวัดศรีสะเกษ นายจันทร์ โต๊ะสิงห์ ประชาคมงดเหล้าจังหวัดศรีสะเกษ นางสุวรรณา สาคร เครือข่ายคลังปัญญาศรีสะเกษ น.ส.สุทธิตา ชูเลิศ ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ ได้เปิดเวทีที่รับฟังความคิดเห็นต่อการแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากกลุ่มเยาวชนและผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการดื่มแอลกอฮอล์ และเปิดเวทีให้เด็กเยาวชนได้แสดงความคิดเห็นต่อการแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ว่าเป็นอย่างไร ในประเด็นที่จะมีการแก้ไข

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เด็กและเยาวชนได้มีการระดมความคิดจากสิ่งที่เห็นในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ที่ยังมีกฎหมายควบคุมเรื่องดังกล่าว ก็ยังมีเหตุการณ์รุนแรงทีเกิดขึ้นจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ไม่น้อย ถ้าหากจะมีการปลดล็อค เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงอย่างสะดวกยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควร ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรวาระ 2 ขั้นการพิจารณาโดยคณะกรรมาธิการ

จากการรายงานของสื่อพบว่าร่างฯ ฉบับนี้ อาจมีเนื้อหาที่ลดการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น การขยายเวลาจำหน่ายการอนุญาตให้โฆษณา การปลดล็อคให้ดื่มในสถานที่ต่างๆ ที่เคยควบคุมฯลฯ เครือข่ายเด็กเยาวชนและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงเป็นตัวแทนขอแสดงความห่วงใยและเสนอแนะความเห็นต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี รวมถึงพรรคการเมืองทุกพรรคเพื่อปกป้องเด็ก เยาวชนและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังนี้ 1. การแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องไม่ทำให้ปัญหาผลกระทบเพิ่มจำนวนนักดื่มและเยาวชนกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่ ซึ่งจะไปสร้างปัญหาสังคมและสุขภาพหากมีการจำหน่ายได้ตลอดเวลา อาจส่งผลกระทบ ให้เพื่อนเยาวชนกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่ได้ง่ายขึ้น 

    2.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสินค้าทีเสรีภาพในการดื่มของบุคคล สามารถก่อให้เกิดความเสียหาย รวมถึงการละเมิด ของบุคคลอื่นต่อเด็ก เยาวชน เช่นการถูกล่วงละเมิดทางเพศการเกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับการกระทำความรุนแรงทางร่างกาย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงเป็นสินค้าที่รัฐบาลต้องควบคุมเพื่อลดการบริโภคให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เด็กเยาวชน มีความห่วงใยต่อเพื่อนเยาวชนด้วยกันหากมีการจำหน่ายได้ตลอดเวลา และไม่มีการควบคุมสถานที่จำหน่าย และสถานทีดื่ม จะทำให้เกิดการเข้าถึงได้ง่ายมีแนวโน้มส่งผลกระทบหลายด้านตามที่กล่าวมา 

    3. ในด้านการบริโภคส่งผลกระทบต่อผู้ที่ดื่มโดยตรงและผู้ที่อยู่รอบข้าง เพราะเกิดค่าใช้จ่ายทีไม่จำเป็น และ ยังพบว่า พ่อแม่ ผู้ปกครองที่ดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลให้ลูกมีปัญหาด้านอารมณ์ รวมถึงมีแนวโน้มกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งเห็นได้ว่า การดื่มแอลกอฮอล์บั่นทอนคุณภาพ บั่นทอนความสามารถในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีคุณภาพต่อสังคมของเด็กเยาวชน 4.เครือข่ายเด็กเยาวชน และผู้ได้รับผลกระทบจังหวัดศรีสะเกษ ไม่ยอมรับการผ่อนปรนมาตรการ เช่น การขยายเวลาจำหน่ายหรือ การโฆษณาที่เอื้อประโยชน์ต่อ ผู้ประกอบการโดยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ และไม่สนับสนุนให้มีการขายแอลกอฮอล์แบบเครื่องขายอัตโนมัติ อยากให้ผู้จำหน่าย มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมมีการตรวจบัตรประชาชน เพื่อไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กเยาวชน และอยากให้ผู้ประกอบการมีส่วนรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดจากการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยการทลายทุนผูกขาด ต้องไม่เอื้อประโยชน์ทุนรายใหญ่ โดยอ้างรายย่อย เพราะเสมือนเป็นการเปิดทางรายใหญ่ที่รายย่อยผูกขาดยิ่งขึ้นไปอีก 

    5.การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญเป็นผลกระทบที่ประชาชนทุกกลุ่มได้รับ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐศาสตร์ เช่นการเกิดหนี้สินครัวเรือน เสียค่าเหล้าที่ไม่จำเป็น การเสียค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยเพราะการดื่มแอลกอฮอล์ อาจจะทำให้ผู้ปกครองไม่มีเงินส่งเสียลูกๆเรียนหนังสือ และขาดโอกาสทางการศึกษาได้  6. ด้านศาสนา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นสินค้าที่ผิดหลักคำสอนของทุกศาสนาการรักษาศีลข้อห้า ในพุทธศาสนาสำคัญยิ่ง เพราะการดื่มสุราทำให้ขาดสติ จนเป็นเหตุให้ผิดศีลข้ออื่น ๆ อาทิเช่น การผิดลูกผิดเมีย การทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย การลักขโมย ใช้วาจาหยาบคาย รวมไปถึงการฆ่าข่มขืน และ 7.อยากให้รัฐบาลเน้นการควบคุมกฎหมายฉบับเดิม ให้เข้มข้นมากกว่าที่จะแก้ไข อยากให้มีการควบคุมเวลาจำหน่ายควบคุมสถานที่ดื่ม ขายเช่นเดิม แต่ขอให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการควบคุมการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวด ร้านค้าจำหน่ายใกล้บริเวณสถานศึกษา สถานที่ราชการ เพราะจะเกิดความเสี่ยงต่อเด็ก เยาวชนและครอบครัวที่สูงขึ้น 

จึงได้รวมตัวกันประกาศจุดยืนเพื่อแสดงความห่วงใยและเสนอแนะความคิดเห็น ประกอบการตัดสินใจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี พิจารณาดำเนินการรับฟังความคิดเห็นประชาชนอย่างครอบคลุมรอบด้าน ก่อนจะมีการสรุปรายงานของคณะกรรมาธิการฯ เพราะหากแก้ไขแล้วอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อเด็กเยาวชนและเกิดปัญหาทางสังคม อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยปกป้องฟันเฟืองคนรุ่นใหม่ ที่สำคัญไม่ควรเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ ควรคุ้มครองและปกป้องเด็กเยาวชน เพิ่มความรับผิดชอบต่อผู้ขาย ไม่เพิ่มปัญหา ไม่เพิ่มคนดื่ม และผู้ได้รับผลกระทบต้องได้รับการเยียวยา.