เมื่อเวลา 10.19 น. วันที่ 20 มิ.ย. 67 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ในวาระแรก เป็นวันที่ 2 

โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงกรณีจัดสรรงบประมาณให้แก่กองทุน กยศ. ว่า กองทุนของบประมาณครั้งแรกในรอบหลายปี เพราะมีการปรับแก้ไขกฎหมาย กยศ. ปรับโครงสร้าง ฉะนั้น เวลานี้จึงเหมือนเป็นช่วงปรับตัวให้เข้ากับ พ.ร.บ.ใหม่ ซึ่งกองทนุของบมาทั้งสิ้น 1.9 หมื่นล้านบาท แต่เราจัดสรรให้ 800 ล้านบาท ซึ่งดูแล้วว่าบริหารจัดการได้ภายใต้กรอบเงินที่คงเหลือในกองทุน รวมถึงเงินที่ได้รับการชำระจากลูกหนี้ ยังสามารถจัดการบริหารเงินได้ในกรอบที่จะรับเงินเพิ่มเติม 800 ล้านบาท แต่ถ้าไม่พอ ก็มีกลไลรองรับอื่นๆ เช่น งบกลาง ยืนยันว่าจะไม่มีนักเรียน นักศึกษา หลุดจากระบบการศึกษา เพราะไม่สามารถกู้ยืม กยศ. ได้ และเรายังตั้งเป้าการกู้ยืมที่ 6.2 แสนราย แบ่งเป็นนักเรียนเก่า 75 เปอร์เซ็นต์ และนักเรียนใหม่ 25 เปอร์เซ็นต์

“การแก้ไข พ.ร.บ.กยศ. เป็นการแก้เบี้ยปรับจาก 18 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 0.5 เปอร์เซ็นต์ ไม่ให้มีคนค้ำประกัน และกฎหมายมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันแรกจนชำระคืนวันสุดท้าย ภายหลังจากที่ได้คำนวณใหม่แล้ว กยศ. ยังค้างเงินให้กับลูกหนี้หลายราย รวมเป็นเงินพันล้านบาท เพราะเมื่อคำนวณแล้วเขาจ่ายเกินมาก แต่ทั้งหมดอยู่ในกรอบบริหารทางการเงินที่สามารถจัดการได้” รมช.คลัง กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เกิด Moral Hazard เล็กๆ กยศ. กลายเป็นเป้าสุดท้ายที่ประชาชนผู้กู้จะมาคืน เพราะไม่โดนฟ้อง ค้ำประกันก็ไม่มี ดอกเบี้ยก็ถูก ถ้าเทียบกับหนี้ในส่วนอื่นๆ ลูกหนี้ก็จะไปชำระหนี้อื่นๆ ก่อน แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่มีแนวคิดปรับแก้ไขกฎหมาย เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นมติจากที่ประขุมรัฐสภาที่ให้ความเห็นชอบ เราก็มีภาระรับโจทย์นี้ ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นประโยชน์กับนักเรียก นักศึกษา วันนี้เราไม่มีกระบอง ก็หากลไกให้เกิดแรงจูงใจให้เขาเป็นผู้กู้ที่ดี โดยกำลังพูดคุยกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ชำระดีกับ กยศ. จะถือเป็นลูกค้าเกรดเอ ถ้าเดินเข้าไปในธนาคารออมสิน หรือธนาคาร ธ.ก.ส. จะมีโอกาสได้รับเงินกู้ที่ง่ายขึ้น มากขึ้น และอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ทั้งนี้ เพื่อหาวิธีการให้กองทุนสามารถอยู่ได้อย่างมั่นคง และยืนยันการจัดสรรงบประมาณเป็นไปอย่างพอดี ไม่มีถมเงินไปที่กองทุนใดกองทุนหนึ่ง และยืนยันผู้กู้ในปีนี้ 6 แสนกว่าราย ต้องได้กู้อย่างแน่นอน.