สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (โอเอชซีเอชอาร์) ให้รายละเอียดในรายงานฉบับใหม่ เกี่ยวกับการโจมตี 6 ครั้ง ซึ่งระบุว่าเป็นรูปแบบที่น่ากังวล เนื่องจากอิสราเอลต้องสงสัยใช้ระเบิดหนัก 2,000 ปอนด์ ในอาคารที่พักอาศัย, โรงเรียน, ค่ายผู้ลี้ภัย และตลาด

นอกจากนี้ โอเอชซีเอชอาร์ ยังยืนยันผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 218 ราย จากการโจมตีดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเดือนแรก ๆ ของสงครามในฉนวนกาซา นับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ปีที่แล้ว แต่ข้อมูลบ่งชี้ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจสูงกว่าตัวเลขข้างต้นอย่างมาก

“ข้อกำหนดในการเลือกวิธีทำสงคราม ซึ่งหลีกเลี่ยงหรือลดอันตรายต่อพลเรือนให้เหลือน้อยที่สุด ดูเหมือนจะถูกละเมิดอย่างต่อเนื่อง ในปฏิบัติการโจมตีด้วยระเบิดของอิสราเอล” นายโฟลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนยูเอ็น กล่าวในแถลงการณ์

ทั้งนี้ รายงานของโอเอชซีเอชอาร์ สรุปว่า การโจมตีหลายครั้งของอิสราเอล ยกตัวอย่างเช่น การโจมตี 6 ครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 9 ต.ค.-2 ธ.ค. 2566 แสดงให้เห็นว่า กองทัพอิสราเอลละเมิดหลักการพื้นฐานของกฎหมายสงครามหลายครั้งหลายหน

“ระเบิดจีบียู-31 รวมถึงระเบิดจีบียู-32 หนัก 1,000 ปอนด์ และระเบิดจีบียู-39 หนัก 250 ปอนด์ ส่วนใหญ่ถูกใช้เพื่อเจาะผ่านคอนกรีตหลายชั้น และทำให้โครงสร้างอาคารสูงพังทลายได้อย่างสมบูรณ์” นายเจเรมี ลอว์เรนซ์ โฆษกของโอเอชซีเอชอาร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว.

เครดิตภาพ : AFP