เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยความคืบหน้าภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 30 ล้านโด๊ส ว่าขณะนี้วัคซีนไฟเซอร์ที่สั่งซื้อทยอยเข้าไทยทุกสัปดาห์กระจายไปฉีดให้กลุ่มนักเรียนอายุ 12-17 ปี ดังนั้นกรณีที่มีข่าวว่าวัคซีนไม่เพียงพอ บางโรงเรียนต้องจับฉลากฉีดวัคซีน ขอให้มั่นใจวัคซีนมีเพียงพอ เพียงแต่ระยะแรกวัคซีนทยอยจัดส่ง 40% อย่างไรก็ตามวันพุธหน้า วัคซีนไฟเซอร์มีกำหนดเข้าไทยเพิ่ม 1.5 ล้านโด๊ส

นพ.โสภณ สรุปภาพรวมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในกลุ่มนักเรียน ไม่พบอาการไม่พึงประสงค์รุนแรง ส่วนใหญ่เจ็บบวมร้อนบริเวณที่ฉีด เวียนศีรษะเหมือนจะเป็นลม อาเจียน แต่พบไม่มากปฐมพยาบาลแล้วดีขึ้น พร้อมแนะนำการฉีดวัคซีนรวมคนจำนวนมากเด็กจะเกิดความกลัวและเกิดอาการคล้ายๆ กัน ดังนั้นการจัดสถานที่ฉีดวัคซีนควรโปร่ง ไม่แออัดเปิดเพลงเพื่อผ่อนคลายความเครียด ความกังวล ส่วนครู บุคลากรการแพทย์ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ซึ่งสามารถหายเองได้ ช่วงที่ผ่านมาพบ 3 ราย ที่ได้รับการยืนยันมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ แต่กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการฉีดวัคซีนให้กลุ่มนักเรียนที่เริ่มฉีดวันที่ 4 ต.ค.

สำหรับประเด็นอุบัติการณ์ของการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิดชนิด mRNA ที่มีแนวโน้มพบในเด็กชาย มากกว่าเด็กหญิงนั้น นพ.โสภณ ชี้แจงว่ากลุ่มนักเรียนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป แล้วกลุ่มเด็กที่มีโรคประจำตัวให้ฉีด 2 เข็ม เพราะถ้ามีโรคประจำตัว หากป่วยโควิดจะมีอาการรุนแรง ส่วนนักเรียนชายอายุต่ำกว่า 16 ปี ที่ร่างกายแข็งแรงปกติ ต้องรอประเมินผลข้างเคียงก่อนฉีดเข็ม 2 ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กอายุ 5-11 ปี ขณะนี้ บริษัทผู้ผลิตยังไม่ยื่นขึ้นทะเบียนแต่อย่างใด.