เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายจัดการปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ปลุกชุมชนให้เข้มแข็ง เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ปราบปราม สกัดกั้น ยึดทรัพย์ผู้ค้า ขจัดข้าราชการทุจริตพัวพันยาเสพติด ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการกวาดล้างปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2567 พบสถิติการจับกุมของกลางยาเสพติด 153,930 คดี จากเดิม 174,118 คดี โดยมีผู้ต้องหา 160,165 คน จากเดิม 179,625 คน รวมถึงได้จับกุมผู้ค้ารายใหญ่และเครือข่าย คือมีของกลางยาบ้า มากกว่า 100,000 เม็ด ถึง 393 คดี จากเดิม 275 คดี เพิ่มขึ้น 69.97 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการนำผู้เสพในระบบคุมประพฤติเข้าสู่กระบวนการบำบัดนั้น ขณะนี้มีคดีระหว่างดำเนินการ 117,587 ราย ศาลสั่งบำบัด 31,863 ราย คงเหลือ 85,724 ราย

น.ส.เกณิกา กล่าวอีกว่า ข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์จะเห็นได้ว่าการทำงานของรัฐบาลจนถึงปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดลดลง เนื่องจากเราแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง และภารกิจหลักของรัฐบาล คือ จะแก้ปัญหาอย่างไรไม่ให้พวกเขากระทำความผิดซ้ำอีก ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องแก้ปัญหา เปลี่ยนคนที่อยู่ข้างกำแพงให้เข้าไปอยู่ในหมู่บ้านได้ นอดจากนี้ พ.ต.อ.ทวีมีแนวคิดที่จะต้องเปลี่ยนเรือนจำ ราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ ให้เป็นสถาบันปฏิรูปคน เพื่อสร้างคนคุณภาพออกสู่สังคม