ที่หอประชุมโรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย จ.สุพรรณบุรี นายนิติกรณ์ ฉันท์วงศ์ชนะ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย ร่วมกับ อาจารย์นันท์ณภัส กันต์พงษ์ อาจารย์ประจำห้องสมุดโรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย, อาจารย์ทิพมาศ ดนตรีพงษ์ หัวหน้าหมวดภาษาไทยโรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย นางอภิญญานุช เผ่าพงษ์คล้าย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาติจังหวัดสุพรรณบุรี เฉลิมพระเกียรติ ชมรมนักโบราณคดี (สมัครเล่น) เมืองสุพรรณบุรี จัดนิทรรศการและการเสวนา “วรรณกรรมของสุนทรภู่ ในสมุดไทยและหนังสือหายาก” เนื่องในวันสุนทรภู่ โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการโคลงนิราศสุพรรณและบรรยายในหัวข้อ “วรรณกรรมของสุนทรภู่ โคลงนิราศสุพรรณในสมุดไทยดำ” นี้เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนได้ร่วมกันรำลึกถึงเกียรติคุณ ยกย่องเชิดชูเกียรติ ตลอดจนส่งเสริมบทกวีและวรรณกรรมซึ่งเป็นผลงานของสุนทรภู่ รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและด้านอื่นๆ ของจังหวัดสุพรรณบุรี

สำหรับ “สุนทรภู่” ได้ชื่อว่าเป็นกวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และบุคคลสำคัญด้านวัฒนธรรมของโลก เป็นจินตกวีเอกในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า “ภู่” เกิดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2329 สุนทรภู่เป็นบุคคลธรรมดาสามัญที่ได้สร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรมล้ำค่าไว้เป็นจำนวนมาก จนได้รับการยอมรับระดับโลกโดยองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศยกย่องให้สุนทรภู่เป็นบุคคลผู้ที่มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมของโลก เมื่อปี พ.ศ. 2529

“สุนทรภู่” ได้แต่งนิราศจำนวน 9 เรื่อง ได้แก่ นิราศเมืองแกลง โคลงนิราศสุพรรณ นิราศพระบาท นิราศภูเขาทอง นิราศวัดเจ้าฟ้า นิราศอิเหนา นิราศพระประธม นิราศเมืองเพชร รำพันพิลาป และนิทาน เช่น โคบุตร พระอภัยมณี กาพย์พระไชยสุริยา รวมถึงบทเสภา เช่น ขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม บทละคร บทเห่กล่อมและสุภาษิตเป็นจำนวนมาก โดยนิราศเมืองแกลง เป็นนิราศเรื่องแรก ที่ได้เขียนบันทึกการเดินทางของสุนทรภู่ เมื่อ พ.ศ. 2349 เพื่อไปพบบิดาซึ่งบวชเป็นพระอยู่ที่วัดป่ากร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง จึงถือว่าเป็นการบันทึกถึงสังคม วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนที่ได้พบเห็นในขณะนั้น นับได้จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 217 ปี