ภาพสัตว์ป่าหายาก ทั้ง เสือดาว เสือดำ สมเสร็จ จระเข้ หมีหมา หมีควาย นกเงือกน้อยใหญ่ชนิดต่างๆ หรือแม้แต่ภาพเหล่าผีเสื้อนับหมื่นตัว ที่ถูกนำมาเผยแพร่ปลุกจิตสำนึกให้คนหวงแหนและรักษาธรรมชาติ ของผืนป่ามรดกโลกอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก บ้านกร่างแคมป์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นั้น ต้องยอมรับว่า มีอิทธิพลในการดึงดูดให้นักท่องเที่ยว ตลอดจนเหล่าช่างภาพจากทั่วโลก หันมาหวงแหนและสนใจเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนต่างมีจุดมุ่งหมายมาศึกษาธรรมชาติ ในผืนป่าแห่งตำนานผืนนี้มากมาย
ผู้ปิดทองหลังพระ ที่สร้างปรากฏการณ์เชื่อมต่อระหว่างธรรมชาติสู่มนุษย์ และมนุษย์กับธรรมชาติ ให้เกิดความหวงแหนมรดกโลกทางธรรมชาติอย่างสมดุล คือสิ่งที่ใครหลายคนอาจไม่เคยรู้ วันนี้ ทีมข่าวเดลินิวส์ จะพามาทำความรู้จักชายผู้นี้ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวทางธรรมชาติ ด้วยการวาดภาพด้วยแสง ลั่นชัตเตอร์จากกล้องและโทรศัพท์มือถือ ถ่ายทอดทรัพยากรป่า เปิดตัวให้ทุกคนได้รู้จักและหวงแหน ผ่านสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก จนเรียกได้ว่า ในวันนี้ สามารถดึงคนเข้าถึงธรรมชาติ เรียนรู้และมีจิตสำนึกอนุรักษ์ผืนป่ามรดกโลก อย่างเข้าใจและลงตัว

ชายผู้อยู่เบื้องหลังการต่อยอดการอนุรักษ์ธรรมชาติผ่านโซเชียลผู้นี้ คือ นายพงษ์ศักดิ์ กันทุกข์ หรือ บอย พนักงานจ้างเหมาชั่วคราว หรือเจ้าหน้าที่ทีโออาร์ อุทยานฯ แก่งกระจาน ประจำจุดบ้านกร่าง โดย บอย เล่าให้ฟังว่า เป็นชาวแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และดำรงชีวิตในพื้นที่มาแต่กำเนิด จึงมีความรักในสัตว์ป่าและผืนป่าแห่งนี้ยิ่งชีพ อีกทั้งควรมีความกตัญญูตอบแทนผืนป่า เนื่องจากป่าแก่งกระจานคือมรดกทางธรรมชาติ ที่ให้จิตวิญญาณ ให้ชีวิต และให้อาชีพ

บอย มีโอกาสเข้ามาทำงานเป็นพนักงานจ้างเหมาชั่วคราว หรือเจ้าหน้าที่ทีโออาร์ อุทยานฯ แก่งกระจาน จากคำเชิญชวนของรุ่นพี่ และอยู่ทำงานรักษาผืนป่ามรดกโลกผืนนี้มาแล้ว 18 ปี มีโอกาสเห็นความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติตามยุคสมัย จากเมื่อก่อนเป็นยุคอนาล็อก ก่อนเปลี่ยนถ่ายสู่ยุคไร้พรมแดนด้วยโลกดิจิทัล ทำให้ได้เห็นและตระหนักว่า เมื่อปัจจุบันเทคโนโลยี connect ให้ทุกอย่างเชื่อมต่อกัน ทำให้เราสามารถปลูกฝังให้คนเข้าถึงธรรมชาติและสัตว์ป่า ตลอดจนเกิดความหวงแหนอนุรักษ์ธรรมชาติชนิดเข้าใจตรงกันได้อย่างง่ายขึ้น

ในที่สุดจึงเกิดไอเดียการปลุกจิตสำนึกให้นักท่องเที่ยวและช่างภาพ มีความหวงแหนธรรมชาติ ผ่านช่องทางสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก จึงร่วมกับภรรยา ที่เป็นพนักงานจ้างเหมาชั่วคราว หรือเจ้าหน้าที่ทีโออาร์ อุทยานฯ แก่งกระจาน เช่นกัน เปิดเพจ บ้านกร่างแคมป์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หวังเพียงเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ ศึกษา และร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่า ผืนป่าอุทยานฯ แก่งกระจาน มรดกโลกแห่งที่ 6 ของไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของไทยด้วย ตราบนานเท่านาน

บอย ถ่ายทอดเรื่องราวตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี ที่ทำหน้าที่ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยว ตลอดจนแนะนำสัตว์ป่าในอุทยานฯ แก่งกระจาน โดยเฉพาะจุดบ้านกร่าง และพะเนินทุ่ง ผ่านโซเชียล ว่า การดำเนินการด้วยวิธีดังกล่าว ได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยม จากเดิมนักท่องเที่ยวไม่รู้ว่า มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนบ้าง และสวยงามอย่างไร ก็ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ อีกทั้งรู้ว่าอยากมาชื่นชมธรรมชาติที่สวยงามแบบนี้ ควรมาในช่วงฤดูไหน อยากเห็นผีเสื้อนับหมื่นตัว อยากเห็นทะเลหมอก ต้องมาเวลาใด

ตลอดจนข้อปฏิบัติในการชื่นชมธรรมชาติ และสัตว์ป่า ก็ได้รับรู้มากขึ้นว่า หากเจอสัตว์ป่า อาทิ เสือดาว เสือดำ หมีหมา หมีควาย หรือแม้แต่สมเสร็จ รวมทั้งนกนานาชนิด ที่ว่ากันว่า แก่งกระจานคือแหล่งดูนกสำคัญของประเทศไทย เปรียบเสมือน เมืองหลวงแห่งการดูนก ซึ่งที่นี่มีนกอาศัยอยู่มากกว่า 500 ชนิด มีทั้งนกประจำถิ่น และนกอพยพ อาศัยอยู่มากมาย ว่า หากพบเจอแล้วควรทำอย่างไร เพื่อให้ปลอดภัยทั้งสัตว์ป่าและนักท่องเที่ยว รวมทั้งไม่เป็นการรบกวนสัตว์ป่า จนเปิดการทิ้งถิ่นที่อยู่อาศัย

ที่ผ่านมา ภาพถ่ายของบอยและผองเพื่อน ปรากฏสู่สายตานักท่องเที่ยวและช่างภาพสัตว์ป่าและธรรมชาติ ในอุทยานฯ แก่งกระจาน มากมายหลายชนิด ที่ประทับใจ ของ บอย คือ การได้พบเจอ ครอบครัวเสือดาวและเสือดำ, สมเสร็จ, ช้างป่า, หมีควาย, หมีหมา, กระทิง, ค่างแว่นถิ่นใต้, นกเงือกชนิดต่างๆ รวม 7 ชนิด ที่มีอยู่ในแก่งกระจาน ตลอดจนนกต่างๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งภาพเหล่านี้ส่วนหนึ่งภายหลังถูกถ่ายทอดผ่านสังคมโซเชียลออกไป ทำให้คนได้รู้จัก และดึงดูดให้มาท่องเที่ยวที่อุทยานฯ แก่งกระจาน มากขึ้น ทำให้เกิดรายได้แก่ชุมชน เมื่อพวกเขาอยู่ได้ สัตว์ป่าก็อยู่ได้ ลดการล่าเอาชีวิต และร่วมกันอนุรักษ์สัตว์ป่าและทรัพยากรทางธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน

บอย เล่าว่า สิ่งที่ทำในวันนี้ ไม่ได้ต้องการเป็นที่โดดเด่นหรือมีชื่อเสียง ขอแค่ได้ทำเพื่อตอบแทนความกตัญญูต่อผืนป่า ขอเป็นผู้ปิดทองหลังพระให้ทรัพยากรธรรมชาติคงอยู่ เพื่อให้ลูกหลานได้มีโอกาสเห็นและซึมซับการอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยยึดถือคติ ขอทำวันนี้และพรุ่งนี้ให้ดีที่สุด

บอย ยอมรับว่า ตลอดระยะเวลาที่เข้มข้นเรื่องการรักษาสัตว์ป่าและผืนป่า ก็มีบ้างที่นักท่องเที่ยวไม่เข้าใจและทำในสิ่งที่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง ยิ่งในยุคปัจจุบันการใช้ไม้แข็งก็จะทำให้นักท่องเที่ยวต่อต้าน จึงต้องประยุกต์ใช้การอธิบายแทรกซึมเหตุผลทั้งข้อดีและข้อเสียให้นักท่องเที่ยวยอมรับและเข้าใจ จนปัจจุบันนี้การเข้าใจ ตลอดจนความสำนึกรักในธรรมชาติของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

การปรับทัศนคติของนักท่องเที่ยวได้เช่นนี้ สิ่งที่ตามมาก็คือ สัตว์ป่าและระบบนิเวศ คงอยู่ รวมทั้งเพิ่มจำนวนมากขึ้น จนทำให้นักท่องเที่ยว อยากกลับมาเที่ยว อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง

สำหรับบอย ในวันนี้ นอกจากจะเป็น พนักงานจ้างเหมาชั่วคราว หรือเจ้าหน้าที่ทีโออาร์ อุทยานฯ แก่งกระจาน ประจำจุดบ้านกร่าง ที่มีหน้าที่ดูแลทรัพยากรทางธรรมชาติของผืนป่ามรดกโลกแก่งกระจานแล้ว ภาพที่หลายคนเห็นได้ชินตาก็คือ หากนักท่องเที่ยวประสบปัญหาเรื่องยานพาหนะ เจ้าหน้าที่บอยผู้นี้ จะเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปให้การช่วยเหลือเสมอ สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากด้วย สำหรับใครที่อยากได้ความรู้เรื่องธรรมชาติ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการท่องเที่ยว และเข้าใจสัตว์ป่าในอุทยานฯ แก่งกระจานมากขึ้น สามารถสอบถามได้ ที่ บอย หรือ นายพงษ์ศักดิ์ กันทุกข์ หรือ บอย พนักงานจ้างเหมาชั่วคราว หรือเจ้าหน้าที่ทีโออาร์ อุทยานฯ แก่งกระจาน ประจำจุดบ้านกร่าง โทร. 09-3343-5496


เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนงานผู้พิทักษ์ป่า สามารถร่วมกิจกรรม D Run For Life 2024 ในพื้นที่ ธีม World Heritage Series Run 2024 สนามที่ 2 มรดกโลกแก่งกระจาน ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กำหนดจัดในวันอาทิตย์ที่ 25 ส.ค. 67 ได้รับความร่วมมือจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และหัวหน้าชุดพญาเสือ และนายมีชัย ปฏิยุทธ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแก่งกระจาน สำนักงานชลประทานที่ 14 กรมชลประทาน

โครงการนี้ เป็นการวิ่งมินิมาราธอนเพื่อผู้พิทักษ์ป่า โดยจะนำรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้แก่มูลนิธิผู้พิทักษ์ป่าและรักษาทะเล อีกทั้งมอบจักรยานและอุปกรณ์การเรียนการสอน แก่ 10 โรงเรียนในชุมชนโดยรอบ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ด้วย ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้ที่ D Run 2024 : World Heritage Series Run
