จากกรณี หญิง อายุ 54 ปี ชาว ต.อูบมุง อ.หนองวัว จ.อุดรธานี ดื่มน้ำอัดลมสีเขียวที่ไม่รู้ว่าใครนำวางไว้หน้าบ้าน 2 ขวด ก่อนจะเกิดอากาน้ำลายฟูมปาก และเสียชีวิตต่อหน้าลูกชายและสามี ส่วนลูกชาย อายุ 37 ปี ได้ดื่มน้ำเขียวขวดเดียวกันแม่ไป 1 อึก มีอาการไม่รุนแรง เหงื่อซึม ขาอ่อนแรง แต่ฝืนลุกไปล้วงคออาเจียน เหตุเกิดวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา นั้น
น้ำเขียวมรณะ! แม่ซดน้ำลายฟูมปากดับ-ลูกรอด เชื่อวางยาหวังฆ่ายกครัว
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเกิดเหตุ ตรวจหาภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ริมถนน ก่อนถึงบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร พบว่าเวลา 20.18 น. – 22.00 น.. มีรถจักรยานยนต์ขี่ผ่านไปทางบ้านผู้เสียชีวิต 4 คัน คาดว่า 1 ในนั้นจะเป็นรถชาวบ้านที่ไปหาปลาและ สามีผู้ตายได้ขอความช่วยเหลือ รวมถึงบางคันอาจจะเป็นรถต้องสงสัยขับขี่มาก่อเหตุ เวลา 00.09 น. จะมีรถจักรยานยนต์ขี่เข้าหมู่บ้าน จนกระทั่งเวลา 00.44 น. จะเห็นรถกู้ชีพเทศบาลตำบลอูบมุง ขับไปที่เกิดเหตุ
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.หนองวัวซอ ซึ่งตำรวจได้เชิญ สามีผู้เสียชีวิต ลูกชายผู้ตาย อดีตลูกสะใภ้ และเพื่อนชาย มาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมกับพิมพ์ลายนิ้วมือทั้ง 4 คน เพื่อไปเปรียบกับลายนิ้วคนร้ายบนขวดน้ำเขียว โดยขณะตำรวจนำตัว อดีตลูกสะใภ้คนตาย ออกมาเพื่อเก็บตัวอย่างปัสสาวะ นำไปตรวจหาสารเสพติด แต่อดีตลูกสะใภ้ปฎิเสธที่จะพูดและตอบคำถามนักข่าว

สามีผู้ตาย เล่าว่า หลังจากทำพิธีฌาปนกิจเมื่อวานนี้ เช้าวันนี้ก็ได้ทำพิธีเก็บอัฐิ แต่ยังไม่ได้นำอัฐิไปบรรจุใส่ธาตุ และวันนี้พนักงานสอบสวนก็ได้เรียกตนและลูกชายมาให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่สอบปากคำไปแล้วเมื่อวานนี้แต่ยังไม่เสร็จ ในความคิดของตนไม่สงสัยลูกชาย แต่ลูกสะใภ้ตนก็สงสัย แต่ตนก็ไม่เคยเห็นผู้ตายกับลูกสะใภ้ทะเลาะกัน แต่ลูกสะใภ้จะชอบเที่ยวเตร่ ไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือน มีแต่ตนออกไปหาปูหาปลามาทำกับข้าวให้กิน อยู่กินกับผู้ตายมา 3 ปี ผู้ตายเป็นทั้งเพื่อนนักเรียน เรียนหนังสือมาด้วยกัน และมาเป็นสามีภรรยากัน ก็รู้สึกเสียใจ หลังจากนี้ตนก็จะกลับไปอยู่บ้านตัวเอง
ส่วนลูกชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า บ้านจะเลี้ยงสุนัขไว้ 3 ตัว จะเห่าคนแปลกหน้า บางครั้งก็เห่าเจ้าของบ้าน วันเกิดเหตุตนไม่ได้ยินเสียงหมาเห่าเลย คาดว่าจะเป็นคนที่สุนัขคุ้นเคยก็ได้ ตนและภรรยาก็จะทะเลาะกันประจำ เรื่องภรรยาตนชอบเที่ยวเตร่หายจากบ้านไปหลายวัน ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน กับใคร ส่วนแม่กับภรรยาตนจะทะเลาะมีปากเสียงกัน เรื่องภรรยาตนชอบเที่ยวไม่ทำงานบ้านไม่ดูแลครอบครัว แต่ทะเลาะไม่รุนแรงและจะดีกันเหมือนเดิม และภรรยาตนจะพูดว่าไม่โกรธแม่เลย ส่วนน้ำอัดลมสีเขียว แม่ไม่ซื้อมาแน่นอน เพราะแม่ไม่ชอบน้ำอัดลม จะชอบซื้อเหล้ามากกว่า
“2 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ แม่ได้ตักเตือนภรรยาตนเรื่องเที่ยวเตร่ แม่ได้ยกเท้าแตะเฉียดปาก พร้อมกับพูดว่านี่แค่ตักเตือน ถ้ายังไม่เลิกเที่ยวอีกก็จะทำรุนแรงกว่านี้ ต่อมาเจ้าหน้าที่มายกหม้อไฟฟ้าไป เพราะไม่ได้ไปจ่ายค่าไฟ ทำให้ภรรยาไม่ได้ชาร์ตแบตมือถือ จึงไปชาร์ตแบตมือถือในหมู่บ้าน จากนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย” ลูกชายผู้เสียชีวิต กล่าว
เบื้องต้นตำรวจยังไม่ตัดประเด็นสังหารใดทิ้ง คือประเด็นมีปากเสียงในครอบครัว และจากการสืบสวนเรื่องครอบครัวผู้ตายมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย อาจจะไปสร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าทรัพย์ แต่เนื่องจากไม่มีประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ นอกจากคนในครอบครัว กล้องวงจรปิดยังไม่ระบุได้ชัดเจนว่าคนร้ายเป็นใคร ตำรวจสืบสวนได้ลงพื้นสืบว่าน้ำเขียวสองขวดซื้อมาจากที่ใด จะได้พิสูจน์ลายนิ้วมือบนขวดน้ำเขียวมรณะ ว่าตรงกับลายมือผู้ใด เพื่อเป็นหลักฐานในการหาตัวคนร้ายต่อไป.