เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต, ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร ยื่นเรื่องถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ผ่านนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องให้ระงับการประกาศใช้เวชปฏิบัติในการรักษาโรคโควิด-19 ที่มีกรยกเลิกการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาโรค
นายปานเทพ กล่าวว่า เรื่องฟ้าทะลายโจรถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยวารสารการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ฉบับที่ 1 ม.ค. 2564 ตีพิมพ์ว่า คนที่ไม่ใช้ฟ้าทะลายโจรมีภาวะปอดอักเสบ 14% ส่วนคนที่ใช้ฟ้าทะลายโจรสามารถลดภาวะปอดอักเสบได้เยอะ เหลือปอดอักเสบไม่ถึง 1% และกรมการแพทย์แผนไทยสรุปให้ยาฟ้าทะลายโจรสามรถลดภาวะปอดอักเสบได้ 94.3% ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงการระบาดของเชื้อเดลต้า คนไทยยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค ฟ้าทะลายโจรจึงเป็นยาที่ราคาถูก หาง่าย มีประสิทธิผลมหาศาล นอกจากนี้ ทางกรมแพทย์แผนไทยฯ ยังรายงานว่า ยาฟ้าทะลายโจรที่ใช้รักษาคนไข้นั้นราคาเพียง 180 บาท ขณะที่ฟาวิพิราเวียร์ราคาถึง 4.8 พันบาท เรียกว่าฟ้าทะลายโจรถูกกว่า 96% ย้ำว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศเองเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ถึงได้แจกจ่ายให้ประชาชน และรอดมาถึงทุกวันนี้ รวมถึงนายสมศักดิ์เองยังเป็นคนให้นำฟ้าทะลายโจรไปใช้ในเรือนนำ พร้อมกำชับว่าต้องสำรองให้เพียงพอ
จนมีประกาศบัญชียาหลักแห่งชาติ วันที่ 4 มิ.ย. 2567 สารสกัดฟ้าทะลายโจรใช้กับผู้ป้วยที่มีอาการน้อย เพื่อลดอาการรุนแรง แม้กระทั่งผงฟ้าทะลายโจรก็ใช้ได้ แต่ผูกขาดอยู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน โดยเขียนชัดว่า ใช้ได้โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ไม่มีคำว่าแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ แม้กระทั่งผง ที่ชาวบ้านหาได้เองก็ยังไม่ให้แพทย์แผนไทยจ่าย จนมีคนสงสัยว่า ทำอย่างนี้ทำไม จากนั้นสมาคมโรคติดเชื้อ ทำคำเตือนว่า หากให้ฟาวิพิราเวียร์ในกลุ่มเดียวกับฟ้าทะลายโจร คือกลุ่มไม่มีอาการ หรืออาการน้อย จะทำให้เกิดเชื้อดื้อยาจนแก้ได้ยากในอนาคต นี่คือเรื่องใหญ่
“พอเปลี่ยนรัฐมนตรีเท่านั้น เวชปฏิบัติก็เปลี่ยนไป 18 เม.ย. 2566 แนวทางเวชปฏิบัติแนวทางการรักษาโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งฉบับนั้นฟ้าทะลายโจรยังอยู่ ไม่มีปัญหา ใช้ได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก แพทย์ใช้ดุลพินิจ ไม่มีปัญหา แต่ฉบับวันที่ 5 มิ.ย. เป็นต้นไป แม้ว่า รพ. จะมีสต๊อกฟ้าทะลายโจร และยังมีอยู่ในบัญชียาหลัก แต่แนวปฏิบัติไม่ให้แพทย์แผนปัจจุบันจ่ายฟ้าทะลายโจรโดยฉบับนี้ มีการตัดฟ้าทะลายโจรออก ซึ่งเป็นยาราคาถูกที่สุด ไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนยาอันดับหนึ่งในตารางการใช้คือเรมเดซิเวียร์ ราคาเป็นหมื่นบาท ที่สำคัญคือ ฟาวิพิราเวียร์อยู่ตอนท้าย ทั้งที่สมาคมโรคติดเชื้อทักท้วง ยังไม่นับโครงการไฮแทปที่ควรจะเปลี่ยนยาฟาวิพิราเวียร์ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญว่ามีใครอยู่เบื้องหลังด้วยหรือไม่ เพราะถ้าไม่มีฟ้าทะลายโจร ยาที่จ่ายให้คนไข้จะแพงขึ้น นำเข้าจากต่างประเทศ” นายปานเทพ กล่าว
ดังนั้น ตนจึงทำหนังสือร่วมกับ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ และ น.ส.รสนา เพื่อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1. ขอให้หยุด หรือระงับแนวเวชปฏิบัติของกรมการแพทย์ ภายใต้คณะกรรมการโควิด ฉบับ 5 มิ.ย. 2567 เพราะข่าวจากงานสมุนไพรแห่งชาติ นักวิจัยมีการเปิดเผยว่า มีการเอางานวิจัยที่เตรียมไว้สำหรับช่วงเดลต้าไปใช้กับโอมิครอน ซึ่งงานวิจัยยังไม่สำบูรณ์ แต่เอาไปใช้ในการตัดฟ้าทะลายโจรออก หากเป็นเช่นนั้น แปลว่าต้องมีปัญหา จนนักวิจัยออกมาส่งเสียงเตือน และถ้าเป็นอย่างนั้น แปลว่า มีกระบวนการล็อกสเปกหรือไม่ 2. ขอบันทึกถอดเทปรายงานการประชุม ถึงเหตุผลถอดฟ้าทะลายโจรออก แต่ยังคงฟาวิพิราเวียร์อยู่ และ 3. ของานวิจัยเต็มฉบับที่อ้างว่า เป็นเหตุในการถอดฟ้าทะลายโจร เพราะนักวิจัยระบุว่า เป็นการอ้างที่ไม่ถูกต้อง
ด้าน ศ.นพ.ธีรวัฒน์ กล่าวว่า ทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนในการใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาและป้องกันตั้งแต่เริ่มต้นเมื่ออาการน้อย ข้อมูลเหล่านี้ถูกตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศ คณะแพทย์ประเทศไทยเองหลายฉบับด้วยกันโดย 3 ปีที่ผ่านมาจนถึง 2 สัปดาห์ที่ผ่านแล้ว ทั่วโลกตื่นเต้นกับฟ้าทะลายโจรมาก เพราะไม่ได้ออกเวชปฏิบัติสหรับรักษาโควิดไม่ว่าจะมีการเปบี่นยแปลงสายพันธุ์อย่างไร รวมถึงยังสามารถออกฤทธิ์กับโรคติดเชื้ออื่นๆ ได้ เช่นไข้หวัดใหญ่ ไวรัส rsv มิหนำซ้ำประเทศจีน การใช้ฟ้าทะลายโจรตั้งแต่มีการระบาดของโรคซาร์ส 20 ปีที่แล้ว และตอนนี้ก็ใช้สมุนไพรจีนที่มีตัวยาแบบเดียวไทย และขึ้นบัญชีเป็นตำกับยาทางการแพทย์ร่วมกับเวชปฏิบัติของแพทย์แผนปัจจุบัน ส่วนไทยเราถือว่ามีของดีอยู่แล้วมีต้นทุน มีการศึกษาฟ้าทะลายโจรเป็นยาอายุวัฒน์ ดูแลเกี่ยวกับโรคเรื่องเมตาบิลิก เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง และมีผลต่อสมองด้วย.